กทม. 4 ต.ค.-ตำรวจรู้ตัวแล้วผู้ก่อเหตุปล้นเงินสุกลเยนนักธุรกิจกว่า 60 ล้านบาท บนคอนโดหรูย่านรัชดา มีมากกว่า 1 คน เตรียมเสนอศาลอนุมัติหมายจับ
พลตำรวจเอกเดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในลานจอดรถของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งภายในซอยรัชดาภิเษก 30 หลังมีกลุ่มผู้ก่อเหตุปล้นทรัพย์เงินสด สกุลเยน ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 196 ล้านเยน หรือเป็นเงินไทยจำนวน 60 ล้านบาทของนายภัทริศ แต้รัตนชัย นักธุรกิจซื้อขายจิวเวอร์รี่
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า แนวทางการสืบสวนพอที่จะจำกัดวงจนทราบกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุแล้ว แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนพยานหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดและการสอบปากคำพยานแวดล้อมยังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมเร่งตรวจสอบเบาะแสรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ดสีส้ม ของผู้เสียหายที่กลุ่มผู้ก่อเหตุปล้นไป จากนั้นได้ร่วมรับฟังข้อมูลจากชุดสืบสวนที่ สน.พหลโยธิน โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที และกล่าวว่ามั่นใจอีก 1 ถึง 2 วัน จะสามารถจับผู้ก่อเหตุได้ แต่ต้องรอพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานต่างๆ ให้รอบคอบเสียก่อน พร้อมปฏิเสธการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลใกล้ชิดกับผู้เสียหายหรือไม่
ขณะที่พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าติดตามการประชุมชุดสืบสวนคดีนี้ด้วย
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว โดยมีมากกว่า 1 คน และให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม พร้อมส่งพยานหลักฐานให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับรายงานผลกลับมาในไม่ช้า
ขณะที่พลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เชื่อมั่นว่าในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ น่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับต่อศาลได้ แต่ตอนนี้ขอให้ตำรวจทำงานก่อน ส่วนการสอบปากคำผู้เสียหาย ยังไม่พบพิรุธ แต่ยังไม่ยืนยันว่าการก่อเหตุเป็นการกระทำจากคนใน หรือมีการว่าจ้างคนนอกมาลงมือก่อเหตุ และขณะนี้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 5 คน จากทั้งหมด 10 คนและยังพบข้อมูลว่า เมื่อปีที่แล้ว นายภัทริศ เคยถูกดำเนินคดีจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. กรณีไม่สำแดงการนำเงินเข้ามาในประเทศ หรือที่เรียกว่าดีแคร์เงิน ซึ่งคดีนี้แยกเป็น 2 ส่วน คือการสืบสวนจับตัวผู้ก่อเหตุ และการขยายผลเรื่องการตรวจสอบการนำเงินเข้ามาในประเทศ
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า กลุ่มคนร้ายใช้เวลาในการก่อเหตุทั้งหมดประมาณ 12 นาที โดยช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ผู้พักอาศัยในคอนโดดังกล่าวได้ยินเสียงดังมาจากบริเวณลานจอดรถชั้น 5 แต่ผู้พักอาศัยคาดว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไร จึงไม่ได้สนใจก่อนที่จะเดินเข้าลิฟท์ไป นอกจากนี้จากการสอบปากคำผู้เสียหายทราบว่า ได้จอดรถกระบะฟอร์ดไว้ที่ลานจอดรถ 5A ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับทางเข้าลิฟท์ประมาณ 15 เมตร โดยลานจอดรถดังกล่าวเปิดไฟไว้เพียง 2 ดวง เมื่อผู้เสียหายทั้ง 2 คนเดินมาใกล้จะถึงประตูทางเข้าลิฟท์ กลุ่มคนร้ายที่คาดว่าหลบซ่อนตัวอยู่หลังเสาซึ่งเป็นมุมมืด ได้วิ่งกรูกันออกมาก่อนจับผู้เสียหายมัดมือมัดเท้าแล้วเอาเงินสกุลเยนและรถกระบะฟอร์ดขับหลบหนีไป.-สำนักข่าวไทย
