ชัยภูมิ 3 ต.ค.-ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ สั่งสอบเหตุครูโหด ตบ-เตะเด็ก ม.2 ฟันหัก-เลือดกบปาก แถมขู่ผู้ปกครอง ด้าน สพม.เขต30 สั่งย้ายครูด่วนก่อนตั้งกรรมการสอบใน 15 วัน
ความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองได้เดินทางเข้าร้องทุกข์แจ้งความต่อ ร.ต.ท.สุเมธ เสนากร รอง.สว.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดครูโหดเตะตบลูกฟันหัก-เลือดกบปากและไม่ยอมรับผิดชอบ แถมยังเข้ามาข่มขู่เด็กและครอบครัวไม่ให้เอาเรื่องจนทำให้ครอบครัวเด็กเริ่มผวากลัวจะถูกครูกลั่นแกล้งไม่ให้เรียนจบการศึกษา
ล่าสุด นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ที่เพิ่งเดินทางมารับตำแหน่งใหม่ที่จังหวัดได้เพียง 2 วัน ทราบเรื่องและได้สั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางต้นสังกัด ผอ.สพม.เขต 30 จังหวัดชัยภูมิ ที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของโรงเรียนและครูดังกล่าว พร้อมหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หน่วยงานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมกับนักสังคมสงเคราะห์และหน่วยแพทย์ให้เร่งลงไปช่วยเยี่ยวยาสภาพจิตใจของเด็กและครอบครัวเด็กรายนี้เป็นการด่วน พร้อมประสานหน่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดี ให้มีการเร่งติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดทั้งทางวินัยราชการ และคดีอาญาโดยเร็วและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเด็กที่เริ่มมีสภาพจิตใจหวาดผวาจนไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนในปัจจุบัน
ด้าน นายปราโมทย์ ภูมิพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นจากโรงเรียนที่ครูรายนี้อยู่แล้ว ซึ่งมีมูลข้อเท็จจริงและมีเด็กถูกกระทำจริง มาตั้งแต่วานนี้แล้ว จึงได้มีคำสั่งลงวันที่ 2 ต.ค.60 ที่ผ่านมาเพื่อให้ย้ายครูคนดังกล่าวที่ตบเด็กจนฟันหักออกจากพื้นที่โรงเรียนมาประจำที่สำนักงาน สพม.เขต 30 ไว้ก่อนแล้ว ระหว่างที่จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยละเอียดอีกครั้งต่อจากนี้ไปไม่เกินภายใน 15 วัน เพื่อดำเนินการเอาผิดทางวินัยร้ายแรงเพิ่มเติม รวมทั้งครูอีกราย หรือมีใครอีกบ้างที่เข้าไปเกี่ยวข้องในการข่มขู่เด็ก และครอบครัวของเด็กว่าจะมีผลกระทบเรื่องการเรียนในอนาคตของเด็กจนทำให้เด็กไม่กล้ามาโรงเรียนเพิ่มเติมอีกด้วย โดย ผอ.สพม.เขต 30 ชัยภูมิ กล่าวอีกว่า ส่วนด้านครูที่ก่อเหตุก็ชี้แจงเพียงวาจาว่าเกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นเหตุมาอีกเรื่อง ส่วนด้านผู้ปกครองและเด็กก็ว่าอีกเรื่องตามหลักฐานที่มีการลงบันทึกยอมรับผิดว่าทำเด็กจริงเพราะเกิดโทสะมีการลงลายมือชื่อครูก่อเหตุยอมรับก็ถือว่ามีความผิดจริงในเบื้องต้นด้วยเช่นกันจึงต้องมีการดำเนินการตามระเบียบราชการที่จากนี้ไปไม่อยากให้มีครูในลักษณะนี้อีกด้วย
ทางด้าน จนท.ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก จ.ชัยภูมิ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าฯ ชัยภูมิ ได้ประสานไปยังครอบครัวพ่อแม่และเด็กวัย 14 ปีรายนี้ เพื่อที่จะเร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงร่วมกับทางฝ่ายตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อสรุปสำนวนส่งดำเนินคดีกับครูโหดมือตบเด็ก ม.2 ครั้งนี้จนฟันหัก เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนคดีทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย