สำนักงานกฤษฎีกา 20 ต.ค.-ประธานกรธ.รอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเพื่อความชัดเจนว่าใครต้องแก้คำปรารภ มั่นใจทุกอย่างยังอยู่ในเงื่อนเวลาตามกรอบ เลือกตั้งตามโรดแมปปลายปี 60
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการพิจารณาปรับแก้คำปรารภในร่างรัฐธรรมนูญว่า จะต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในสัปดาห์หน้าก่อนว่าใครจะเป็นคนทำหน้าที่แก้ และจะแก้โดยวิธีใด ซึ่งยังอยู่ในระยะเวลา 30 วันที่ส่งไปให้นายกรัฐมนตรี เพราะถือว่าระยะเวลายังนับไปตามปกติ ไม่ได้หยุดชะงักลง ดังนั้น ทุกคนต้องพยายามทำให้ตรงไปตามเวลา ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ประธานกรธ. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีประกาศแล้วว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ดำริมาแล้วว่าจะลงพระนามเอง ดังนั้น ระยะเวลาที่จะอยู่ที่พระมหากษัตริย์ 90 วันยังคงเพียงพอ และไม่มีปัญหาอะไร ถือว่ายังอยู่ในกรอบของโรดแมปที่รัฐบาลได้วางเอาไว้ว่าจะเลือกตั้งได้ภายในปลายปี 2560 โดยกรธ.จะเร่งจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกรรมการการดลือกตั้ง(กกต.) และพรรคการเมืองให้แล้วเสร็จพร้อมส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)พิจารณาได้ทันทีที่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ เพื่อจะให้พรรคการเมืองและกกต.เตรียมพร้อม
“จะหลุดปี 60 หรือไม่หลุดขึ้นอยู่กับความพร้อมของกกต. โดยกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึงส.ว. จะออกมาเมื่อกฎหมายลูก 2 ฉบับแรกเสร็จและพร้อมแล้ว เพราะถ้าออกตูมมา แล้วนับหนึ่งเลือกตั้ง หากไม่พร้อม คงไม่ได้ จึงพยายามออก 2 ฉบับนี้ไปเพื่อให้เตรียมพร้อมก่อน” นายมีชัย กล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการพิจารณาร่างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง นายมีชัย กล่าวว่า ในส่วนของร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองได้ข้อสรุปในหลักการกว้าง ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และกำลังนำมาร่างในกฤษฎีกา โดยในเบื้องต้นจะให้การจัดตั้งพรรคการเมืองเริ่มต้นต้องริเริ่มด้วยจำนวนคนประมาณ 500 คนมีทุนประเดิมคนละประมาณ 2,000 บาท เพื่อจะได้มีกองทุนที่พรรคจะได้เริ่มต้นดำเนินกิจกรรม 1 ล้านบาท เพื่อจะได้ให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชน และทุกคนที่เป็นสมาชิกจะต้องจ่ายค่าสมาชิก
“มีสิทธิในการกำหนดนโยบายต่าง ๆ ของพรรค และไม่บังคับว่าต้องตั้งสาขาพรรค แต่ใช้การตั้งผู้แทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดแทนได้ นอกจากนี้จะให้ตรวจสอบสมาชิกเพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน โดยนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ และต้องจ่ายค่าสมาชิกจริง ซึ่งจะนำมาคำนวณในตอนให้เงินสนับสนุนพรรคการเมืองด้วย ทั้งนี้จะไม่มีการรีเซ็ตสมาชิกพรรค แต่เรื่องการตั้งหัวหน้าและกรรมการบริหารจะต้องเลือกกันใหม่ เพื่อให้สมาชิกมีบทบาทที่แท้จริง” ประธานกรธ. กล่าว
ส่วนร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต.นายมีชัย กล่าวว่า อยู่ระหว่างการปรับแก้ร่างเพื่อให้เป็นไปในทิศทางที่คิดว่าดี และเมื่อถึงเวลาพิจารณารายมาตราจะเชิญกกต.ที่ทำเรื่องนั้น ๆ มาร่วมพิจารณาว่าสามารถทำได้ในทางปฏิบัติมากน้อยเพียงใด จะได้ปรับแก้ให้เรียบร้อยก่อนส่งสนช.-สำนักข่าวไทย