พ่อแม่แจ้งความครูโหดตบนักเรียน ม.2 ฟันหักแถมเตะซ้ำ

ชัยภูมิ 2 ต.ค.-พ่อแม่โร่แจ้ง ตร.จับครูโหดตบนักเรียน ม.2 ฟันหัก เลือดกบปาก แถมเตะซ้ำต่อหน้าเพื่อนนักเรียน ลั่นทำร้ายเด็กจริง ท้าอยากได้ค่ารักษาไปฟ้องเอา แถมยังถูกเมียครูโหดสอนอยู่ ร.ร.เดียวกันขู่ระวังตัวให้ดีเจอกันแน่ ม.3


ผู้ปกครองเด็กนักเรียนชั้น ม.2 วัย 14 ปี โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง จ.ชัยภูมิ เข้าร้องทุกข์แจ้งความต่อ ร.ต.ท.สุเมธ  เสนากร รอง.สว.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับครูรายหนึ่งที่มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายบุตรชายของตนเองเกินกว่าเหตุ โดยครูคนดังกล่าวได้ตบเข้าที่ใบหน้าจนหน้าไปกระแทกกับชั้นเหล็กหน้าร้านค้าจนเลือดกบปากและยังจะตามเข้ามาเตะซ้ำอีก ต่อหน้าเพื่อนนักเรียนที่กำลังยื่นรอซื้อน้ำบริเวณหน้าร้านค้าภายในโรงเรียน ก่อนที่ครูรายนี้จะเดินหนีจากไปอย่างหน้าตาเฉย โดยไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ จนบุตรชายได้โทรมาบอกผู้ปกครองให้ทราบเพื่อเดินทางไปที่โรงเรียนและทางคณะ รอง.ผอ.ผู้บริหารของโรงเรียนดังกล่าวได้เรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาลงบันทึกของโรงเรียนให้ครูรายนี้แสดงความรับผิดชอบ โดยครูคนดังกล่าวได้ยอมรับอย่างหน้าตาเฉยว่าตัวเองเป็นคนทำร้ายเด็กนักเรียนจริง ซึ่งทำไปเพราะบันดาลโทสะและได้บันทึกยอมรับสารภาพต่อหน้าผู้บริหารโรงเรียนและผู้ปกครองพร้อมที่จะรับผิดชอบในการช่วยรักษาพยาบาลตามจริงตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.60 ที่ผ่านมา

แต่ต่อมาจนปัจจุบันนานกว่า 1 เดือนแล้วครูรายนี้กลับยังไม่ยอมมาแสดงความรับผิดชอบตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด กลับผิดคำพูดยังอ้างว่าอยากได้ค่ารักษาให้ไปฟ้องเอาเอง มิหนำซ้ำลูกชายยังถูกภรรยาของผู้ก่อเหตุที่เป็นครูสอนอยู่ในโรงเรียนเดียวกันพูดจาข่มขู่บอกว่าระวังตัวไว้ให้ดีเดี๋ยวเจอกันแน่ในชั้น ม.3 ยังมีความพยายามมาช่วยกันข่มขู่ครอบครัวตนเองและบุตร ไม่ให้เอาเรื่องเพราะต่อไปจะขึ้น ม.3 แล้ว จะได้เจอดีกันอีก


ทั้งนี้หลังจากผู้ปกครองได้เข้าร้องเรียนกับผู้บริหารและนัดเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย ให้ครูได้รักษาทำฟันปลอมใส่ให้เด็กนักเรียนและทำบันทึกการรับสารภาพต่อหน้าผู้บริหารแล้วแต่ครูก็ยังเฉยซ้ำยังบอกให้ผู้ปกครองว่าให้ไปฟ้องร้องศาลเอาเอง จนผู้ปกครองสุดทนโล่แจ้งความดำเนินคดี

ขณะที่ นักเรียน ม.2 เล่าว่า ช่วงเที่ยงของวันนี้ 23ส.ค.60 ที่ผ่านมา ช่วงพักเที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ขณะที่เด็กชายเอ (นามสมมุติ) พักรับประทานอาหารกลางวันและได้เดินไปซื้อน้ำดื่มที่ร้านค้าสหกรณ์ประจำโรงเรียน ขณะที่อาจารย์บี(นามสมมุติ)ครูประจำโรงเรียนชื่อดังได้ยืนอยู่ที่หน้าร้านค้า เด็กชายบีได้ขอแลกเงินกับครูคนดังกล่าวและได้มีเพื่อนนักเรียนอีกคนพูดสวนขึ้นมาว่าครูครับเอาเหล้าจักกงบอครับเมื่อครูคนดังกล่าวได้ยินจึงหันกลับมาทางแด็กชายบี แล้วใช้มือกำคอเสื้อเด็กชายบีแล้วใช้มือขวาตบเข้าที่ใบหน้าเด็กชายบีจนฟันหักเลือดกบปากและยังเตะซ้ำอีกหนึ่งครั้งต่อหน้าเพื่อนๆ นักเรียนหลายสิบคนที่กำลังยื่นรอซื้อน้ำดื่มหน้าร้านสหกรณ์โรงเรียนก่อนจะเดินจากไปอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

ด้าน ร.ต.ท.สุเมธ เสนากร รอง.สว.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ หลังรับแจ้งเหตุแล้ว ในกรณีนี้ซึ่งมีการกระทำผิดเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนมีอายุต่ำกว่า 15 ปีเบื้องต้นตามกฎหมายจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนจะทำร้ายร่างกายสาหัสหรือไม่ ต้องรอผลพิสูจน์ทางแพทย์อีกครั้งหนึ่งซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายอาญาด้วย จากนี้ไปจะต้องมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ที่จะต้องมีการนำตัวเด็กผู้ปกครอง มาสอบสวนร่วมเพิ่มเติมร่วมกับเจ้าหน้าที่มีตัวแทนฝ่ายปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บ้านพักเด็กและเยาวชน นักจิตวิทยา แพทย์จากโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ตำรวจ อัยการ ร่วมกับสอบสวนตามหลักสหวิชาชีพเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนที่จะได้เรียกตัวครูรายนี้มารับทราบข้อหาที่ชัดเจนเพิ่มเติมต่อไป


อย่างไรก็ตาม เด็กนักเรียนหลายคนต่างบอกว่าครูคนดังกล่าวมีความประพฤติในลักษณะดังกล่าวบ่อยมากและครูคนดังกล่าวในอดีตยังเคยมีเรื่องมีราวกับเพื่อนครูอยู่ประจำแต่ไม่มีใครกล้าออกมาต่อสู้หรือเอาเรื่องเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของครูคนดังกล่าวที่มีญาติเป็นถึงนักข่าวใหญ่ นสพ.หัวสีในจังหวัดชัยภูมิ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นการกระทำที่ทำให้เสียมเสียชื่อเสียงของโรงเรียนเป็นอันมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

ตร.ไซเบอร์หอบสำนวนคดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” มอบอัยการสูงสุด

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์หอบสำนวน 50 หน้า ส่งมอบให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดี “คลิปเสียงฮุนเซน” ผิดม.116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ขณะที่โฆษกอัยการรับต้องละเอียดรอบคอบ เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการสั่งฟ้องผู้นำประเทศมาก่อน พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนคดีคลิปเสียงฮุนเซน ประมาณ 50 หน้า พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานอัยการสูงสุด จากกรณีที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้บัญชี เฟซบุ๊กชื่อ “Samdech Hun Sen of Cambodia” ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า เพจ Facebook สมเด็จฮุน เซน มีลักษณะการโพสต์ข้อความที่เป็นขั้นเป็นตอน […]

“แพทองธาร” ถกต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ดัน 5 ยุทธศาสตร์

บ้านพิษณุโลก 14 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้าบ้านพิษณุโลก หารือบีโอไอ – ทีมซอฟต์พาวเวอร์ไทย หนุนลงทุน พร้อมต่อยอด ดัน 5 ยุทธศาสตร์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก ในเวลา 09.50 น. เพื่อประชุมกับทีมที่ปรึกษาและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI รวมถึงหน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับและขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเป็นการหารือต่อยอดจากที่นางสาวแพทองธาร ได้ประกาศเดินหน้ายุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย 5 ด้าน ทั้ง อาหารไทย มวยไทย ไทยเวลเน็ต ภาพยนต์ไทย และอัญมนี บนเวที Splash Softpower Forum 2025 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันที่ 8-11 ก.ค. ที่ผ่านมา .-316 -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย