กรุงเทพฯ 2 ต.ค. – ผู้ว่าฯ ธปท. ระบุภาคธุรกิจควรมุ่งพัฒนาภาคการผลิต สร้างภูมิคุ้มกัน ใช้กลไกตรวจสอบภายใน ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ถึงเป้าหมาย รองรับความผันผวนในอนาคต
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปัจจุบันการทำธุรกิจ ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่มาจากรูปแบบการทำธุรกิจใหม่ๆ การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดดมาตรฐานใหม่ๆที่มีเข้ามาภายในสังคม นอกจากนี้ตลาดเงินตลาดทุนก็มีความผันผวนสูงขึ้น ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่กลไกการตรวจสอบภายในต้องมีประสิทธิภาพ โดยกลไกการตรวจสอบภายในขององค์กรจะต้องให้ความสำคัญกับผลิตภาพ (Productivity) ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อให้ผลผลิตมีปริมาณและมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยคำนึงถึงการใช้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการปรับปรุงคุณภาพปัจจัยการผลิต ซึ่งเป็นหัวใจของการแข่งขันทั้งในระดับภาคธุรกิจและระดับประเทศ
ทั้งนี้กลไกการตรวจสอบภายในจะยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับทุกองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนว่ามีการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงและมีผลิตภาพที่ดี ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างผลิตภาพให้กับเศรษฐกิจโดยรวม
นอกจากนี้ ธุรกิจจะต้องให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งกลไกการตรวจสอบภายในที่ดีถือเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับองค์กร โดยเฉพาะการสร้างวัฒนธรรมให้คนในองค์กรมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องความเสี่ยง มุ่งเน้นการควบคุมภายในอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อความยั่งยืนขององค์กร
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตประเทศไทยยังต้องเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างหลายอย่าง ทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นจากความเหลื่อมล้ำ ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ถ้าจะทำให้เศรษฐกิจไทยและสังคมไทยเดินหน้าต่อไปได้ ทุกธุรกิจต้องตระหนักถึงการทำหน้าที่เป็นพลเมืองของสังคม โดยมี
ดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล ต่อต้านคอร์รัปชั่น คำนึงถึงนโยบายเรื่องสิ่งแวดล้อมและชุมชน เพื่อช่วยยกระดับและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทย – สำนักข่าวไทย