ประจวบคีรีขันธ์ 27 ก.ย.-กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน พักโฮมสเตย์ สัมผัสธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชาวบ้าน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติชื่นชอบ วันนี้ ผู้สื่อข่าวจะพาไปเที่ยวที่กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นซาฟารีเมืองไทย
ไฮไลต์ของทริปนี้ คือ การเข้าไปชมช้างป่ากุยบุรี ซึ่งไกด์ชาวบ้านบอกว่า มักจะไม่ผิดหวัง เพราะมีโอกาสได้เจอเจ้างวงยาวแทบทุกวัน มากบ้าง น้อยบ้าง มีทั้งที่มาเป็นโขลงใหญ่กว่า 10 ตัว หรือมาโชว์ตัวแบบเดี่ยวๆ ไร้คู่ ซึ่งจากการสำรวจล่าสุด คาดว่ามีช้างป่าอาศัยอยู่ที่นี่เกือบ 240 ตัว และถ้าโชคดีมากๆ ยังอาจมีโอกาสได้เห็นฝูงกระทิงป่าด้วย แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่ากุยบุรี
กิจกรรมท่องเที่ยวดำเนินการโดยชาวบ้าน ที่รวมกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤติคนกับช้าง โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีช่วยดูแลเป็นพี่เลี้ยง มีการสร้างโป่งเทียมและแหล่งน้ำให้สัตว์ป่ามีอาหารเพียงพอ จะได้ไม่บุกมากินพืชไร่ของชาวบ้าน พร้อมทั้งทำข้อตกลงกฎเกณฑ์เงื่อนไขการนำเที่ยว เช่น กำหนดเวลาระหว่าง 14.00-18.00 น. ต้องใช้รถและไกด์ชาวบ้านผู้ผ่านการอบรมเท่านั้น
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากพักค้างคืนที่บ้านรวมไทยแห่งนี้ มีโฮมสเตย์รองรับได้ 5 หลัง ทุกหลังผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวโฮมสเตย์ ของกระทรวงการท่องเที่ยวมาแล้ว
รูปแบบการท่องเที่ยวโฮมสเตย์ชุมชน อาจไม่สะดวก สบายเหมือนทัวร์ระดับ 5 ดาว แต่จุดเด่นคือการได้สัมผัสวิถีชุมชน อยู่กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับชาวบ้าน และกิจกรรมท่องเที่ยวกุยบุรียังดำเนินการโดยยึดตามแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ครั้งหนึ่งทรงเคยขอคืนผืนป่าให้ช้าง
ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี มีรถรับนักท่องเที่ยว 50 คัน ค่าบริการเที่ยวละ 850 บาท หากมาเป็นกลุ่มไม่เกิน 8 คน ใช้รถคันเดียวหารค่าใช้จ่ายกันได้ ส่วนแพ็กเกจค่าที่พัก รวมอาหาร 1 มื้อ คิดคนละ 350 บาท หากมีมื้อเช้าด้วย บวกคนละ 120 บาท หรือจะเป็นแพ็กเกจรวม ทั้งที่พัก-อาหาร-และนำเที่ยวชมสัตว์ป่า คิดคนละ 700-900 บาท.-สำนักข่าวไทย