กทม. 22 ก.ย.-ตำรวจ สน.บางขุนเทียน จับสาวใช้เมียนมาลักทรัพย์นาฬิกา Rolex กับแหวนเพชรนายจ้าง มูลค่า 3 ล้านบาท
นางสาวมิโชวิน อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา อาชีพแม่บ้าน ถูกตำรวจ สน.บางขุนเทียน จับกุมได้พร้อมของกลางนาฬิกายี่ห้อ Rolex ฝังเพชร 1 เรือน และแหวนเพชร 4 กะรัต 1 วง มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 11/103 หมู่บ้านโกลล์เลเจนด์ ถนนกัลปพฤกษ์ เขตจอมทอง หลังเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา นางนวรัตน์ อานุภาพมาก เจ้าของบ้านและเป็นนายจ้างของนางสาวมิโชวิน เข้าแจ้งความกับฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ว่า นาฬิกา Rolex และ แหวนเพชร ที่สวมใส่เป็นประจำสูญหายไป โดยขณะเกิดเหตุมีนางสาวมิโชวิน ซึ่งเป็นแม่บ้านอยู่ในบ้านกับผู้เสียหายเพียงสองคน จากการเชิญตัวนางสาวมิโชวิน มาสอบสวนให้การปฏิเสธ และยอมกล่าวคำสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปบนหิ้งพระภายในห้องปฏิบัติการฝ่ายสืบสวนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง
กระทั่งช่วงบ่ายวันนี้นางสาวมิโชวิน ได้เก็บของใช้และขอลาออกจากงาน ผู้เสียหายจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนให้นำกำลังไปที่บ้านเพื่อขอค้นตัวและทรัพย์สินของนางสาวมิโชวิน เบื้องต้นพบของกลางทั้ง 2 รายการภายในกระปุกยา ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าสะพาย จึงควบคุมตัวมาแจ้งข้อหาลักทรัพย์นายจ้างหรือรับของโจร
จากการสอบสวนนางสาวมิโชวิน ให้การยอมรับว่า ขโมยทรัพย์สินของนางนวรัตน์ นายจ้างจริง โดยเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา นางนวรัตน์ ได้อาบน้ำกำลังจะออกไปธุระนอกบ้าน และวางทรัพย์สินทิ้งเอาไว้ ตนเองจึงหยิบฉวยนำไปซ่อน โดยทีแรกนำทรัพย์สินทั้ง 2 รายการไปซ่อนในโถชักโครกห้องน้ำ ก่อนที่นายจ้างจะแจ้งความกับตำรวจและถูกเชิญตัวมาสอบสวนที่ สน.บางขุนเทียน จนตนเองต้องยอมสาบานต่อหน้าพระเพื่อเอาตัวรอดไปก่อน และวันนี้กำลังจะเก็บของลาออกจากงานกลับไปบ้านเกิดประเทศเมียนมา ก็มาถูกค้นตัวทำให้ต้องยอมจำนนเพราะตำรวจพบของกลาง
ด้านนางนวรัตน์ เปิดเผยว่า ตนเองทำธุรกิจส่งออกเครื่องเพชรไปต่างประเทศ และว่าจ้างนางสาวมิโชวิน มาทำงานเป็นแม่บ้านได้ 4 ปีแล้ว โดยมีเอกสารจ้างงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้เงินเดือนเดือนละ 14,000 บาท ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะทำแบบนี้ เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้จึงมาตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดในบ้าน พบว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมามีทรัพย์สินอีกหลายรายการที่สูญหายไป ประกอบด้วย แหวนบุษราคัมล้อมเพชร 1 วง แหวนเพชร 1 วง ต่างหูมุก 1 คู่ และจี้เพชร 1 อัน มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท แต่เนื่องจากนางสาวมิโชวิน ไม่ยอมรับและตรวจค้นไม่พบของกลางแล้ว คงต้องทำใจ แม้ว่าตำรวจจะตรวจพบว่าในบัญชีธนาคารของนางสาวมิโชวิน เคยมีเงินหมุนเวียนกว่า 6 แสนบาทที่ทยอยโอนกลับไปให้ญาติที่เมียนมาก็ตาม.-สำนักข่าวไทย