คาดความต้องการใช้ไฟฟ้า 20 ปีข้างหน้าไม่หด หลังหัวเมืองโตไว

กรุงเทพฯ 20 ก.ย. – กระทรวงพลังงานประเมินความต้องการไฟฟ้าในแผนพัฒนากำลังงานไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี) 20 ปีฉบับใหม่ คาดจะไม่หดตัว แม้เทคโนโลยีใหม่จะเริ่มมา แต่จากสังคมเมืองในต่างจังหวัดโตขึ้น รวมถึงแผนอีอีซี อีวี และระบบราง จะส่งผลให้ความต้องการไฟฟ้ายังคงเพิ่มขึ้น ส่วนเปิดประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณส่อล่าช้า 1-2 เดือน


พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงฯ อยู่ระหว่างเสนอกรอบการศึกษาพีดีพี 20 ปีฉบับใหม่ต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช. ) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานวันที่ 18 ตุลาคมนี้ โดยในแผนจะพิจารณาปัจจัยทุกด้านมาประกอบ ทั้งเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีใหม่ (description technology) นโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้เพิ่มสัดส่วนของพลังงานทดแทน  ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือจากคณะกรรมการปฏิรูปพลังงานที่มีนายพรชัย รุจิประภา เป็นประธาน  ช่วยส่งความเห็นเพื่อนำมาประกอบการจัดทำพีดีพีใหม่ด้วย 

รมว.พลังงาน ยังกล่าวถึงการเปิดประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียม “เอราวัณ-บงกช” ที่จะหมดอายุปี 2565-2566 ขณะนี้รอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาตรวจร่างกฎหมายลูก พ.ร.บ.ปิโตรเลียม เช่น หลักเกณฑ์ระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใด โดยเดิมนั้นเชื่อว่าจะพิจารณาเสร็จ 1 เดือน หลังจากส่งไปให้พิจารณาเมื่อต้นเดือนกันยายน หากทำตามเป้าหมายเดิมจะเปิดทีโออาร์ประมูลแบบพีเอสซีเดือนตุลาคม แต่หากพิจารณาล่าช้าก็อาจจะเลื่อนไป 1-2 เดือน  


นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า แผนพีดีพีใหม่คาดจะปรับปรุงเสร็จสิ้นภายในต้นปี 2561 โดยเบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แจ้งประเมินภาวะเศรษฐกิจว่าระยะยาวจะไม่ขยายตัวแบบก้าวกระโดดอาจจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3-4 ขณะที่ได้นำนโยบายรัฐบาลทั้งเรื่องการพัฒนาระบบราง, การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) , การพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐภาคตะวันออก (อีอีซี ) การขยายเติบโตของสังคมเมืองในภูมิภาคต่าง ๆ มาร่วมพิจารณา เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าของหัวเมืองต่าง ๆ จะเพิ่มขึ้น  รวมถึงเทคโนโยโลยีใหม่ ทั้งสมาร์ทกริด ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage ) ระบบ Micro Grid การศึกษาพัฒนาไฟฟ้ารายภูมิภาค ซึ่งจะดูว่าความต้องการ กำลังผลิต และสายส่งของแต่ละภูมิภาคเป็นอย่างไร โดยจะส่งเสริมการผลิตตรงไหนให้ใช้ตรงนั้น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการสูญเสียในระบบส่ง (LOSS)

“การปรับแผนพีดีพีใหม่ทาง สนพ.จะร่วมกับ กฟผ.และดึงทบวงพลังงานระหว่างประเทศหรือไออีเอ  มาร่วมประเมินศักยภาพพลังงาน เพราะเป็นหน่วยงานที่มีฐานข้อมูลที่ดีจะมาช่วยวิเคราะห์ โดยเผนนี้จะดูถึงเทคโนโลยีใหม่และกระจายการผลิตพลังงานทดแทน กระจายเชื้อเพลิงหลัก เพื่อลดความเสี่ยง” นายทวารัฐ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม