ยื่นดีเอสไอ เอาผิดทุกรายที่เกี่ยวข้องคดีฟอกเงินกรุงไทย

ดีเอสไอ 19 ก.ย.-ทนายความอิสระ ยื่นหนังสือดีเอสไอ เรียกร้องให้เร่งดำเนินคดีกับอดีต 2 ผู้บริหารกรุงไทย


นายวันชัย บุนนาค ทนายความอิสระ เดินทางเข้ายื่นเอกสารต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายฟอกเงินกับผู้กระทำความผิดทุกราย โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ ในคดีความผิดฐานฟอกเงินกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในการทุจริตอนุมัติสินเชื่อให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานคร  โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษก ดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง


นายวันชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาดีเอสไอยังไม่ได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานฟอกเงินรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเลือกดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเพียงส่วนหนึ่ง ทั้งที่ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน มีผู้บริหารที่ร่วมอนุมัติเงินกู้ 5 รายแต่กลับถูกดำเนินคดีเพียง 3 รายเท่านั้น ซึ่งอีก 2 รายที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีคือ นายอุตตม สาวนายน ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ โดยอยากขอให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย ตั้งแต่ผู้โอนเงิน และผู้รับโอนเงินจากการกระทำความผิดดังกล่าวทั้งบุคคลและนิติบุคคลประมาณ 200 ราย รวมทั้งการเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับอนุมัติวงเงินสินเชื่อจำนวน 9,900 ล้านบาทให้กับบริษัทโกลเด้นเทคโนโลยี อินดัลเทรียล พาร์ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกฤษดามหานคร โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่า บริษัทโกลเด้นเทคโนโลยีฯ ได้นำเงินสินเชื่อ ซึ่งไม่อยู่ในวัตถุประสงค์ของการอนุมัติสินเชื่อ จำนวนกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้อโกงไปใช้เพื่อประโยชน์ของกลุ่มกฤษดามหานครและพวกพ้อง และหากพนักงานสอบสวนดีเอสไอยังไม่เร่งดำเนินการตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

 


ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า หลังรับเรื่องแล้วจะส่งให้พนักงานสอบสวนสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีดำเนินการ โดยการสอบสวนได้ชี้แจงไปแล้วว่าพนักงานสอบสวนได้พิจารณาเสร็จและส่งให้อัยการไปแล้ว ส่วนคดีฟอกเงินคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพิ่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามา ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งจะเรียกนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายอดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนจะดำเนินการ หลังมีเอกสารหลักฐานยืนยันครบ  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่