กระทรวงมหาดไทย 18 ก.พ. –นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในหลายพื้นที่ว่า มีผู้ขายสินค้าบางรายทำการกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภคไว้ เพื่อนำไปจำหน่ายในราคาสูงกว่าราคาปกติ หรือนำสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรือเสื่อมคุณภาพแล้วมาขายให้ประชาชน ซึ่งเป็นการเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาประชาชน ผู้บริโภคซึ่งถูกเอาเปรียบจากการกักตุนสินค้าให้ขาดตลาดแล้วมาตั้งราคาขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงกว่าปกติ จึงให้ดำเนินการ ให้จังหวัดเปิดช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ กรณีมีผู้ประกอบการหรือผู้ค้า ทำการกักตุนสินค้าอุปโภคบริโภครวมทั้งสุรา บุหรี่หรือตั้งราคาขายสินค้าดังกล่าวสูงกว่าปกติ รวมถึงให้จังหวัดและหรืออำเภอจัดชุดปฏิบัติการพิเศษ ประกอบด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ จากส่วนราชการกระทรวงพาณิชย์ในจังหวัด กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส) ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เกษตรและปศุสัตว์ สาธารณสุข(อย.) และอื่นๆตามที่เห็นสมควร เพื่อออกไปปฏิบัติการตรวจสอบราคาสินค้า ในพื้นที่ว่ามีการกักตุนสินค้าหรือไม่ โดยเฉพาะการกักตุนหรือการตั้งราคาขายสุรา บุหรี่หรือสินค้าอื่นๆที่จำเป็นของประชาชนสูงกว่าปกติ ทั้งนี้ให้กำชับผู้ค้า ผู้ให้บริการต้องติดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการอย่างชัดเจน และในกรณีที่พบว่ามีการกักตุน หรือตั้งราคาขายสินค้าที่สูงกว่าปกติเกินจริงก็ให้ตักเตือน ขอความร่วมมือมิให้กระทำผิดกฎหมาย หากพบว่ามีเจตนากระทำผิด หรือกระทำผิดซ้ำให้ดำเนินการจับกุม เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด แล้วรายงานชื่อผู้ประกอบการหรือบริษัทห้างร้าน ที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ ทราบเพื่อจะได้ประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาใช้มาตรการทางกฎหมายภาษี หรือมาตรการทางกฏหมายป้องกันการฟอกเงิน เข้าไปดำเนินการต่อผู้ประกอบการ หรือห้างร้านเหล่านั้นที่เอาเปรียบประชาชนต่อไป
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวมุ่งหวังเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้บริโภค สร้างความยุติธรรม และความเท่าเทียมกันในการประกอบการค้าขาย และส่งเสริมการค้าขายอย่างมีคุณธรรม ตามแนวยุทธศาสตร์ชาติ และป้องกันผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม จึงให้จังหวัดและอำเภอ รวมทั้งชุดปฏิบัติการพิเศษดำเนินการอย่างรอบคอบ ระมัดระวังรวมทั้งเป็นแบบอย่างให้สามารถลดการเอาเปรียบระหว่างภาคส่วนต่างๆ ในสังคมตามนโยบายของรัฐบาลด้วย.-สำนักข่าวไทย