ศึกษาโครงสร้างค่าไฟใหม่อาจหมดยุคอัตราเดียวทั่วประเทศ

เพชรบุรี 18 ก.ย.-กกพ.ศึกษาโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่แตกต่างตามต้นทุนรายภาค ยิ่งใกล้โรงไฟฟ้า ค่าไฟยิ่งถูก โดยโครงสร้างใหม่รองรับ Disruptive Technology ส่งเสริมตั้งปั๊มชาร์จ อีวี ยอมรับศึกษาพ่วงเก็บ BACK UP พลังงานแสงอาทิตย์-ลม 


นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) และโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กำหนดแผนงานให้ กกพ.ศึกษาค่าไฟฟ้ารายภาค กำหนดอัตราที่แตกต่างกันตามต้นทุนระยะทาง หากใกล้โรงฟฟ้าต้นทุนค่าไฟฟ้าจะต่ำลง เพราะไม่ต้องลงทุนปักเสาพาดสายระยะไกล เหมือนกับราคาน้ำมัน หากใกล้โรงกลั่นน้ำมันราคาจะถูกกว่าพื้นที่ห่างไกล ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ดังนั้น ทาง กกพ.จึงมอบหมายให้ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์ที่ปรึกษาการปรับอัตราโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ไปศึกษาว่า เหมาะสมจะคิดค่าไฟเป็นรายภาคหรือไม่จากปัจจุบันเป็นอัตราเดียวกันทั่วประเทศจะศึกษาเสร็จภายใน 5-6 เดือนข้างหน้า 

ในขณะเดียวกันจะมีการศึกษาเรื่องไมโครกริด แก้ปัญหาไฟฟ้าในพื้นที่ห่างไกล เช่น เกาะ หรือพื้นที่บนภูเขา ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่มีพลังงานหลากหลาย ขณะนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังศึกษาที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนบนพื้นที่เกาะ เดิมนั้น ต้องผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันต้นทุน 10-20 บาทต่อหน่วย ปัจจุบัน หลายเกาะ ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ต่อสายเคเบิลมูลค่าหลายพันล้านบาทไปบริการ หากมีไมโครกริดเกิดขึ้น ต้นทุนค่าไฟฟ้าก็จะคิดจากพื้นที่จุดนั้นๆซึ่งผู้ประกอบการก็อาจจะจ่ายสูงกว่าไฟฟ้าชาวบ้าน เพราะถือว่าไฟฟ้าเสถียรบริการนักท่องเที่ยวและถูกกว่าการผลิตด้วยตัวเองที่ใช้ดีเซล


“โครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่คาดว่าจะประกาศได้ราวค่าไฟฟ้างวดที่ 2 ปีหน้า หรือรอบ เดือน พ .ค.-ส.ค. ยังตอบไม่ได้ว่าราคาจะปรับขึ้นหรือไม่ หรือจะเก็บเป็นรายภาคหรือไม่  ขณะเดียวกันมีการศึกษาเรื่องค่าสำรองไฟฟ้า (BACK UP )ว่าควรดำเนินการอย่างไร ควรเก็บพลังงานแสงอาทิตย์และลมหรือไม่จากปัจจุบันไม่มีการจัดเก็บ แต่ก็เป็นที่ทราบดีว่า ไฟฟ้าจากส่วนนี้จะเข้ามามากขึ้นในอนาคต และต้องวางแผนรับมือให้เหมาะสม” นายวีระพล กล่าว

นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธาน กกพ.กล่าวด้วยว่า โครงสร้างใหม่จะใช้ไปอีก 4 ปีข้างหน้าภายใต้แผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2561 – 2564) มีการกำหนดค่าไฟฟ้าเพื่อให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้พลังงานที่เปลี่ยนไป เช่น การสนับสนุนการลดใช้พลังงานในช่วง Peak อัตราค่าไฟฟ้าตามมาตรการส่งเสริมการลดใช้ไฟฟ้า (Demand Response) การกำหนดค่าไฟฟ้าสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ การกำหนดค่าไฟฟ้าสำหรับชุมชนรอบโรงไฟฟ้า รวมทั้งอัตราค่าเชื่อมต่อระบบโครงข่ายพลังงานทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ   นอกจากนี้ ยังจะเข้าไปกำกับดูแลรถยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า โดยคาดว่าจะสามารถประกาศหลักเกณฑ์การกำกับดูแลตั้งแต่ต้นทางจนถึงสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าปลายทางได้ภายในปี 2561


“ในขณะนี้มีผู้ยื่นขอติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์อีวี โดยขณะนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประกาศอัตราค่าส่งชั่วคราวแล้วเป็นอัตราทีโอยู ส่วนการไฟฟ้านครหลวงอยู่ระหว่างดำเนินการประกาศ ส่วนอัตราถาวรก็คาดว่ากระทรวงพลังงานจะกำหนดชัดเจนในปีหน้า ภาพรวมแล้วขณะนี้คุมการจำหน่ายของการไฟฟ้ากับปั๊มชารจ์เป็นอัตราทีโอยู ส่วยปั๊มจะขายปลีกเท่าใดไม่มีการควบคุม”ประธาน กกพ. กล่าว

ทั้งนี้ กกพ. ได้เตรียมแผนงานสะท้อนยุทธ์ศาสตร์ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ (1) การกำกับกิจการพลังงานเป็นเลิศ (2) ส่งเสริมการแข่งขันและก้าวทันนวัตกรรมพลังงาน (3) สื่อสารงานกำกับกิจการพลังงานให้เข้าถึง และ (4) องค์กรมีสมรรถนะสูง เป็นมืออาชีพ อาทิ ดำเนินการทบทวน และผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างอัตราค่าบริการในกิจการไฟฟ้าใหม่ โดยคำนึงถึงต้นทุน เป็นธรรม โปร่งใส และรองรับกับรูปแบบกิจการพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป เอื้อต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันธุรกิจทั้งในและนอกภาคพลังงาน

“ผมเชื่อว่า ในอีกไม่นานปรากฏการณ์ Disruptive Technology จะเกิดขึ้นในทุกวงการ ซึ่งหน่วยงานด้านพลังงานต้องพร้อมรับมือ” นายพรเทพฯ กล่าว

สำนักงาน กกพ. ยังมีแผนจัดตั้ง “ศูนย์วิเคราะห์ และพยากรณ์ข้อมูลพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และข้อมูลเพื่อประกอบการกำกับกิจการพลังงาน” โดยภายในปี 63 สำนักงาน กกพ. จะเป็นศูนย์กลางเครือข่ายด้านการพยากรณ์และการควบคุมระบบไฟฟ้า สำหรับนโยบายการกำกับดูแล และจัดหาเชื้อเพลิงเพื่อการผลิตไฟฟ้า ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ขณะนี้ได้ทยอยประกาศหลักเกณฑ์ และแนวทางการกำกับดูแลระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้เกิดการแข่งขันกิจการก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่องทุกปี ในส่วนของการศึกษา หลักเกณฑ์ และกำหนดอัตราค่าบริการการขนส่งน้ำมันทางระบบท่อ ก็จะทยอยดำเนินการเช่นกันหลังจากมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จ และคาดว่าจะสามารถกำกับอัตราค่าบริการขนส่งน้ำมันทางท่อได้ก่อนสิ้นสุดแผนยุทธศาสตร์ฯ ภายในปี 64 

ส่วนกลไกกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ ขณะนี้มีการประกาศได้จัดทำโครงการแล้วกว่า 35,000 โครงการ หรือคิดเป็นมูลค่า กว่า 12,800 ล้านบาทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ปิดเกาะล่า ฆ่าเปลือย-รัดคอพยาบาลหมกศพในหอพัก

สุราษฏร์ธานี 21 พ.ค. – พบศพพยาบาลสาว ถูกคนร้ายฆ่ารัดคอทิ้งศพเปลือยบนเตียงนอน แถมขโมยรถยนต์ผู้ตายไปด้วย ตำรวจปิดเกาะสมุยไล่ล่า ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสองชั้น ของโรงบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุยจ.สุราษฎร์ธานี โดยในห้องพักชั้นสอง พบศพ นางสาวอัญชุลี อายุ 36 ปี ชาวกรุงเทพ เสียชีวิตสภาพนอนหงายบนที่นอน ไม่สวมเสื้อผ้า ใส่แต่กางเกงในสีดำ ที่ลำคอมีเสื้อยืดสีขาวรัดไว้แน่น สิ่งของบนพื้นข้างเตียงกระจัดกระจาย ยังพบกล่องถุงยางอนามัยหนึ่งกล่อง ไม่พบร่องรอยบาดแผล มีเพียงรอยเขียวคล้ำที่ลำคอ จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายทำงานเป็นซูเปอร์ไวเซอร์พยาบาลวิชาชีพ โรงบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตำบลบ่อผุด คืนเกิดเหตุ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นผู้ตายที่เพิ่งเลิกงานกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่ทำงาน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าและขับรถยนต์นิสสันสีเทา ทะเบียน กทม. ออกไป และขับกลับเข้ามาเวลาประมาณตี 2 เศษ จากนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะกันแล้วเงียบหายไป จนตอนเช้า เพื่อนไปหา พบว่าห้องถูกปิดและติดต่อผู้ตายไม่ได้ กระทั่งมารู้ว่าเสียชีวิตภายหลัง เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด และพบว่ารถยนต์ของผู้ตายหายไป คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ตำรวจระดมกำลังมกำลังปิดเส้นทางการหลบหนี บริเวณท่าเรือทั้งสองท่า พร้อมนำพยานกลุ่มเพื่อน ผู้ตายไปสอบปากคำ โดยให้การว่า […]

ผู้เชี่ยวชาญคาดบ่ายพรุ่งนี้ นำร่างคนงานขึ้นจากหลุมสำเร็จ

กทม. 21 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. เผยผู้เชี่ยวชาญ คาดพรุ่งนี้ช่วงบ่าย นำร่างคนงานผู้สูญหายขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตรได้ ย้ำการทำงานทุกขั้นตอนคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ภารกิจค้นหาคนงานผู้สูญหายที่ตกหลุมลึก 19 เมตรในโครงการขุดเจาะก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณถนนหลานหลวง ใกล้ปากซอยหลานหลวง 8 หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นมา 48 ชั่วโมงแล้ว วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครนขุดเจาะเพื่อขุดหลุมค้นหาร่างผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาร่วมประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและทีมกู้ภัย ระบุว่า อุปสรรคในการปฏิบัติงานในขณะนี้คือความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากอุปกรณ์ชีทไพล์หรือแผ่นเหล็กกั้นดินสไลด์ ที่ติดตั้งลึกถึงสามชั้น ประมาณรวม 16 เมตร ซึ่งด้านล่างมีแรงดันของดินและน้ำมหาศาล ทำให้ระหว่างการขุดดินจะต้องทำโครงสร้างค้ำยัน ชีทไพล์เป็นระยะๆ ในแต่ละชั้น ซึ่งตอนนี้สามารถทำโครงสร้างค้ำยันในชั้นที่สามแล้วถือเป็นชั้นลึกสุด นายชัชชาติ เผยว่าเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ คาดการณ์ว่าหากไม่มีอุปสรรคอย่างอื่นเพิ่มเติม ภายในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ช่วงบ่ายจะสามารถนำร่างผู้สูญหายขึ้นมาได้ ประเมินว่าร่างของผู้สูญหายน่าจะอยู่ในระดับความลึกจากพื้นผิวถนนประมาณ 12 เมตร ไม่ใช่ 16 เมตร อย่างที่เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่วนประเด็นญาติของผู้สูญหายซึ่งเป็นพี่ชายและน้องชาย ทำงานด้วยกันขณะเกิดเหตุด้วย […]

นายกฯ นำทีมไทยแลนด์ถึงลอนดอนแล้ว จ่อพบเจ้าของค่ายมวยไทย

สหราชอาณาจักร 21 พ.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ นำทีมไทยแลนด์เดินทางถึงลอนดอนแล้ว เตรียมพบเจ้าของค่ายมวยไทยยักษ์ใหญ่ในอังกฤษ พร้อมร่วมกันผลักดันศิลปะมวยไทยให้เป็นสินค้า “เมดอินไทยแลนด์” พร้อมพบผู้บริหารซูเปอร์สโตร์ หารือเปิดตลาดขยายโอกาสสินค้าและซอฟต์พาวเวอร์ไทย ให้กระจายทั่วยุโรป เวลา 10.00 น. กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (ซึ่งตรงกับเวลา 16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ที่ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้เดินทางถึง ท่าอากาศยาน Heathrow กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อร่วมประชุมหารือทีมไทยแลนด์ ส่งเสริม สินค้าและบริการไทย ผลักดัน Soft Power กีฬาไทย ขยายตลาดเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการของไทย ในสหราชอาณาจักรและยุโรป ช่วงบ่ายวันนี้ เวลา 14.45 น. ตรงกับเวลา 20.45 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเข้าพบกับเจ้าของและผู้บริหาร ร่วมทั้งครูผู้ฝึกสอนค่ายมวยไทย […]

ลุ้นพรุ่งนี้ ศาลปกครองนัดชี้ขาด “ยิ่งลักษณ์” คดีทุจริตจำนำข้าว

ศาลปกครอง 21 พ.ค.-ลุ้นบ่ายพรุ่งนี้ ศาลปกครองสูงสุด นัดชี้ขาด “ยิ่งลักษณ์” ต้องชดใช้เงิน 35,717 ล้านบาท คดีทุจริตจำนำข้าวหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุด นัดออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่า กระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด […]