ศึกษาโครงสร้างค่าไฟใหม่อาจหมดยุคอัตราเดียวทั่วประเทศ

เพชรบุรี 18 ก.ย.-กกพ.ศึกษาโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่แตกต่างตามต้นทุนรายภาค ยิ่งใกล้โรงไฟฟ้า ค่าไฟยิ่งถูก โดยโครงสร้างใหม่รองรับ Disruptive Technology ส่งเสริมตั้งปั๊มชาร์จ อีวี ยอมรับศึกษาพ่วงเก็บ BACK UP พลังงานแสงอาทิตย์-ลม 


นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) และโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กำหนดแผนงานให้ กกพ.ศึกษาค่าไฟฟ้ารายภาค กำหนดอัตราที่แตกต่างกันตามต้นทุนระยะทาง หากใกล้โรงฟฟ้าต้นทุนค่าไฟฟ้าจะต่ำลง เพราะไม่ต้องลงทุนปักเสาพาดสายระยะไกล เหมือนกับราคาน้ำมัน หากใกล้โรงกลั่นน้ำมันราคาจะถูกกว่าพื้นที่ห่างไกล ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ดังนั้น ทาง กกพ.จึงมอบหมายให้ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์ที่ปรึกษาการปรับอัตราโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ไปศึกษาว่า เหมาะสมจะคิดค่าไฟเป็นรายภาคหรือไม่จากปัจจุบันเป็นอัตราเดียวกันทั่วประเทศจะศึกษาเสร็จภายใน 5-6 เดือนข้างหน้า 

ในขณะเดียวกันจะมีการศึกษาเรื่องไมโครกริด แก้ปัญหาไฟฟ้าในพื้นที่ห่างไกล เช่น เกาะ หรือพื้นที่บนภูเขา ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่มีพลังงานหลากหลาย ขณะนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังศึกษาที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนบนพื้นที่เกาะ เดิมนั้น ต้องผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันต้นทุน 10-20 บาทต่อหน่วย ปัจจุบัน หลายเกาะ ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ต่อสายเคเบิลมูลค่าหลายพันล้านบาทไปบริการ หากมีไมโครกริดเกิดขึ้น ต้นทุนค่าไฟฟ้าก็จะคิดจากพื้นที่จุดนั้นๆซึ่งผู้ประกอบการก็อาจจะจ่ายสูงกว่าไฟฟ้าชาวบ้าน เพราะถือว่าไฟฟ้าเสถียรบริการนักท่องเที่ยวและถูกกว่าการผลิตด้วยตัวเองที่ใช้ดีเซล


“โครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่คาดว่าจะประกาศได้ราวค่าไฟฟ้างวดที่ 2 ปีหน้า หรือรอบ เดือน พ .ค.-ส.ค. ยังตอบไม่ได้ว่าราคาจะปรับขึ้นหรือไม่ หรือจะเก็บเป็นรายภาคหรือไม่  ขณะเดียวกันมีการศึกษาเรื่องค่าสำรองไฟฟ้า (BACK UP )ว่าควรดำเนินการอย่างไร ควรเก็บพลังงานแสงอาทิตย์และลมหรือไม่จากปัจจุบันไม่มีการจัดเก็บ แต่ก็เป็นที่ทราบดีว่า ไฟฟ้าจากส่วนนี้จะเข้ามามากขึ้นในอนาคต และต้องวางแผนรับมือให้เหมาะสม” นายวีระพล กล่าว

นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธาน กกพ.กล่าวด้วยว่า โครงสร้างใหม่จะใช้ไปอีก 4 ปีข้างหน้าภายใต้แผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2561 – 2564) มีการกำหนดค่าไฟฟ้าเพื่อให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้พลังงานที่เปลี่ยนไป เช่น การสนับสนุนการลดใช้พลังงานในช่วง Peak อัตราค่าไฟฟ้าตามมาตรการส่งเสริมการลดใช้ไฟฟ้า (Demand Response) การกำหนดค่าไฟฟ้าสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ การกำหนดค่าไฟฟ้าสำหรับชุมชนรอบโรงไฟฟ้า รวมทั้งอัตราค่าเชื่อมต่อระบบโครงข่ายพลังงานทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ   นอกจากนี้ ยังจะเข้าไปกำกับดูแลรถยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า โดยคาดว่าจะสามารถประกาศหลักเกณฑ์การกำกับดูแลตั้งแต่ต้นทางจนถึงสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้าปลายทางได้ภายในปี 2561


“ในขณะนี้มีผู้ยื่นขอติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์อีวี โดยขณะนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประกาศอัตราค่าส่งชั่วคราวแล้วเป็นอัตราทีโอยู ส่วนการไฟฟ้านครหลวงอยู่ระหว่างดำเนินการประกาศ ส่วนอัตราถาวรก็คาดว่ากระทรวงพลังงานจะกำหนดชัดเจนในปีหน้า ภาพรวมแล้วขณะนี้คุมการจำหน่ายของการไฟฟ้ากับปั๊มชารจ์เป็นอัตราทีโอยู ส่วยปั๊มจะขายปลีกเท่าใดไม่มีการควบคุม”ประธาน กกพ. กล่าว

ทั้งนี้ กกพ. ได้เตรียมแผนงานสะท้อนยุทธ์ศาสตร์ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ (1) การกำกับกิจการพลังงานเป็นเลิศ (2) ส่งเสริมการแข่งขันและก้าวทันนวัตกรรมพลังงาน (3) สื่อสารงานกำกับกิจการพลังงานให้เข้าถึง และ (4) องค์กรมีสมรรถนะสูง เป็นมืออาชีพ อาทิ ดำเนินการทบทวน และผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างอัตราค่าบริการในกิจการไฟฟ้าใหม่ โดยคำนึงถึงต้นทุน เป็นธรรม โปร่งใส และรองรับกับรูปแบบกิจการพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป เอื้อต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันธุรกิจทั้งในและนอกภาคพลังงาน

“ผมเชื่อว่า ในอีกไม่นานปรากฏการณ์ Disruptive Technology จะเกิดขึ้นในทุกวงการ ซึ่งหน่วยงานด้านพลังงานต้องพร้อมรับมือ” นายพรเทพฯ กล่าว

สำนักงาน กกพ. ยังมีแผนจัดตั้ง “ศูนย์วิเคราะห์ และพยากรณ์ข้อมูลพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และข้อมูลเพื่อประกอบการกำกับกิจการพลังงาน” โดยภายในปี 63 สำนักงาน กกพ. จะเป็นศูนย์กลางเครือข่ายด้านการพยากรณ์และการควบคุมระบบไฟฟ้า สำหรับนโยบายการกำกับดูแล และจัดหาเชื้อเพลิงเพื่อการผลิตไฟฟ้า ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ ขณะนี้ได้ทยอยประกาศหลักเกณฑ์ และแนวทางการกำกับดูแลระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้เกิดการแข่งขันกิจการก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่องทุกปี ในส่วนของการศึกษา หลักเกณฑ์ และกำหนดอัตราค่าบริการการขนส่งน้ำมันทางระบบท่อ ก็จะทยอยดำเนินการเช่นกันหลังจากมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จ และคาดว่าจะสามารถกำกับอัตราค่าบริการขนส่งน้ำมันทางท่อได้ก่อนสิ้นสุดแผนยุทธศาสตร์ฯ ภายในปี 64 

ส่วนกลไกกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ ขณะนี้มีการประกาศได้จัดทำโครงการแล้วกว่า 35,000 โครงการ หรือคิดเป็นมูลค่า กว่า 12,800 ล้านบาทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม