สนช.ยืนเซ็ตซีโร่ กสม.

รัฐสภา 14 ก.ย.-สนช.ลงมติเอกฉันท์ ผ่านร่างกฎหมายลูกว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เห็นชอบเซ็ตซีโร่ กสม.


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (14 ก.ย.) มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 เป็นประธาน ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย พิจารณาเสร็จแล้ว โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า หลังจากที่กรรมาธิการได้พิจารณาตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีข้อโต้แย้งใน 6 ประเด็นแล้วนั้น ที่ประชุมกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ได้มีมติเห็นด้วยให้แก้ไขเพียงประเด็นเดียวเกี่ยวกับคณะกรรมการสรรหา คือ มาตรา 11 วรรค 5 เดิมกำหนดให้การทำหน้าที่ของกรรมการสรรหาเมื่อครบกำหนดการสรรหาแล้ว หากยังได้กรรมการสรรหาไม่ครบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ให้กรรมการสรรหาเท่าที่สรรหาได้ทำหน้าที่ได้ทันที ซึ่งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายได้กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาต้องมีผู้แทนองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนมีส่วนร่วมในการสรรหาด้วย

นายสุรชัย กล่าวว่า ส่วนการทำหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และเมื่อครบเวลาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว ยังไม่มีหรือยังไม่ได้คณะกรรมการสรรหาครบตามจำนวน ให้คณะกรรมการสรรหาเท่าที่มีอยู่เริ่มกระบวนการสรรหาเพิ่มภายใน 30 วัน และหากพ้นจาก 30 วันไปแล้ว ยังไม่ได้คณะกรรมการสรรหาในส่วนที่ขาด ให้คณะกรรมการสรรหาที่มีอยู่ทำหน้าที่ไปพลางได้ ส่วนประเด็นข้อโต้แย้งเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ กสม. กรรมาธิการร่วมฯ พิจารณาแล้ว ให้ยืนตามร่างเดิมที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เขียนไว้ คือ ทันทีที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ให้ประธานและกรรมการ กสม.พ้นจากตำแหน่งทันที หรือเซ็ตซีโร่ กสม.


ด้านนายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรรมาธิการเสียงข้างน้อย กล่าวย้ำถึงข้อโต้แย้ง ไม่เห็นด้วยกับการเซ็ตซีโร่ กสม.ว่า การกำหนดเนื้อหาตามมาตรา 60 ขัดต่อหลักนิติธรรม เพราะการจะให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ ควรกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ แบบรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เพื่อให้กฎหมายมีความแน่นอนและไม่เกิดปัญหาในการตีความ ซึ่งการพิจารณาในปัญหานี้ต้องมีการชั่งน้ำหนักระหว่างเหตุผลความจำเป็นและประโยชน์สาธารณะ ซึ่งกรณีของ กสม.เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วไม่ได้เป็นการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะแต่อย่างใด เพราะการจะให้กฎหมายมีผลย้อนหลัง จะต้องคุ้มครองความสุจริตของ กสม.ที่เข้ามาในตำแหน่งตอนแรกโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเองจะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี ดังนั้นจึงเห็นว่าควรแก้ไขมาตรา 60 ด้วยการกำหนดให้คนที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ก็ให้ กสม.พ้นจากตำแหน่งเฉพาะรายไป

ด้านนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการ กรธ. ชี้แจงว่า กรธ.เห็นว่าการที่ สนช.พิจารณามาตรา 60 สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแล้ว เพราะมาตรา 273 ของรัฐธรรมนูญได้บัญญัติว่าให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ดำรงตำแหน่งก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญทำหน้าที่ต่อไปแต่ให้เป็นไปตามที่ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญกำหนด สาเหตุที่รัฐธรรมนูญต้องบัญญัติไว้เช่นนี้ เนื่องจากในอดีตเรามีปัญหามาก จึงต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคมของประเทศไทยตามคำปรารภในรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน กรธ.ได้ศึกษารายงานของคณะอนุกรรมการประเมินสถานะของสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้เตือนไทยว่าสถานะของ กสม.จะถูกลดลงหากยังไม่สามารถทำตามหลักการปารีสภายใน 1 ปี ซึ่งสาเหตุมาจากกระบวนการสรรหา กสม.ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ไม่มีความหลากหลาย พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้ กสม.ปฏิบัติตามข้อกังวลดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ที่สุดแล้ว ที่ประชุมลงมติเห็นชอบบร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามมาตรา 267 วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 177 เสียง และเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ  อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนจากนี้จะส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก