กทม.14 ก.ย.-กรมคุ้มครองสิทธิฯ มอบเงินช่วยเหลือผู้เสียหายในคดีอาญา8 ราย พร้อมประกาศความร่วมมือช่วยเหลือประชาชนอย่างเท่าเทียมผ่าน พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน โครงการประกาศความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือประชาชน
ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 โดยมีหน่วยงานภาคี เข้าร่วมงานจำนวนมาก พร้อมกันนี้ได้มอบเงินค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหายในคดีอาญาจำนวน 8 ราย รวมเป็นเงิน 921,620 บาท เช่น คนขับแท็กซี่ที่ขับมาบนสะพานกรุงเทพ ก่อนมีท่อนเหล็กหลุดเสียบในรถได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่เปิดยกสะพาน ได้รับเงินช่วยเหลือ 160,000 บาท รวมทั้งพนักงานช่างบริษัทซีพีเอฟที่ลงไปช่วยนักศึกษาในบ่อบำบัด จนเสียชีวิต สาเหตุจากความประมาทของบริษัท ซึ่งผู้ตายมีบุตร ภรรยา และบิดามารดา ได้สิทธิรับเงินตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา 110,000 บาท เป็นต้น
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนจำนวนน้อยมากทราบว่าประเทศไทยมีกฎหมายฉบับนี้ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากคดีอาญา ที่่ผานมากรมคุ้มครองสิทธิฯ ได้มีการปรับปรุงกฎหมายในการช่วยเหลือค่าไช้จ่ายแก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรม และเพื่อให้ประชาชนได้ทราบและเข้าถึงกฎหมายนี้จึงบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพนักงานสอบสวน ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจทั่วประเทศ มีหน้าที่แจ้งสิทธิให้แก่ผู้เสียหายหรือทายาทที่มาร้องทุกข์ ในส่วนของจำเลย ให้เจ้าพนักงานผู้ทำหน้าที่ปล่อยตัว ในเรือนจำ ทัณฑสถาน รวมถึงสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนทุกแห่ง มีหน้าที่แจ้งแก่จำเลยที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง หรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด หรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด สามารถรับเงินช่วยเหลือจากกฎหมายฉบับนี้ได้ โดยหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมให้ประชาชนเข้าถึงบริการของรัฐได้อย่างเป็นธรรม ทั่วถึง
ภายในงาน นางสาวณัฎฐ์ธมน ธนไตรสิทธิ หรือน้องวันใหม่ ที่ในปี 2558 เป็นนักเรียนหญิง ชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งถูกกลุ่มวัยรุ่นดักยิง จนตาบอดสนิททั้ง 2ข้าง สุดท้ายกลายเป็นการยิงผิดตัว โดยเหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2558 ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า ที่่ผ่านมาได้รับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายจากกรมคุ้มครองสิทธิฯ มาโดยตลอด แม้จะเป็นจำนวนเงินไม่มากเมื่อเทียบกับสิ่งที่เสียไป แต่ยังดีที่เงินจำนวนนี้ได้นำมาเป็นค่าใช้จ่ายค่าเดินทาง เมื่อต้องไปขึ้นศาล หรือไปเรียน โดยตอนนี้ตนสอบเข้าเรียนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ได้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์เพราะจบมามีความตั้งใจอยากช่วยเหลือคนอื่นที่เดือดร้อนแบบตนเอง ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ก็ดีขึ้นมากจากตอนเกิดเหตุ แต่ก็ยังเป็นกังวล และเครียดบ้างไนบางครั้ง เนื่องจากส่วนตัวอยากจะช่วยเหลือตัวเอง แต่บางครั้งการไปเรียนเองก็ถือเป็นอุปสรรคสำคัญ ที่ตอนนี้ยังต้องให้พ่อหรือแม่ไปส่ง ซึ่งเป็นการรบกวนคุณพ่อคุณแม่ แต่หลังจากนี้ก็จะพยายามช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องให้พ่อแม่เป็นห่วง.-สำนักข่าวไทย