กรม สบส. 6 ก.ย.-กรม สบส.ห่วงประชาชนประสบอันตรายจากสัตว์มีพิษหลังน้ำลด แนะหลักปฏิบัติ 5 ข้อเป็นยันต์กันอันตราย พร้อมย้ำสร้างนิสัยรักความสะอาดป้องกัน งู ตะขาบ แมงป่อง ฯลฯ หวนกลับเข้าบ้าน
นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบรากรสขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนถึงกลางเดือนตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนของประเทศมีฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ประชาชนต้องอพยพออกจากที่พักอาศัยเป็นการชั่วคราว แม้ในขณะนี้หลายแห่งสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว ประชาชนเริ่มทยอยกลับเข้าที่พักอาศัย แต่การกลับมาครั้งนี้อาจจะไม่ปลอดภัยเหมือนก่อน เพราะนอกจากจะต้องระวังอันตรายจากไฟฟ้าดูด และเชื้อโรคที่มากับน้ำ ยังมีอันตรายอีกประเภทหนึ่งซึ่งมักจะมาพร้อมกับน้ำท่วมเป็นประจำ คือ อันตรายจากสัตว์มีพิษ ซึ่งหนีน้ำมาหลบซ่อนในที่พักอาศัย เนื่องจากน้ำที่ท่วมสูงทำให้สัตว์ต่างๆ รวมถึงสัตว์มีพิษอาทิ งู ตะขาบ และแมงป่อง ฯลฯ ที่ไม่สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมของตน ต้องอพยพหนีเข้ามายังพื้นที่บ้านเรือน แต่หลังจากน้ำลดสัตว์มีพิษเหล่านี้ก็มักจะไม่กลับไปยังพื้นที่เดิมของตนแต่กลับหลบซ่อนอยู่ในบ้านเรือนแทน
นพ.ประภาส กล่าวต่อว่า เพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษที่แอบแฝงอยู่ในบ้านเรือนของประชาชน กรม สบส.ขอแนะประชาชนให้นำหลักปฏิบัติ 5 ข้อ ไปใช้เป็นยันต์กันสัตว์มีพิษ ประกอบด้วย 1.ก่อนการเก็บกวาด หรือทำความสะอาดบ้านเรือนให้สวมถุงมือยางและรองเท้าบูท ป้องกันสัตว์มีพิษกัด 2.หาไม้ยาว หรือท่อพลาสติก เคาะไปตามพื้นหรือตามกองวัสดุให้ทั่วทุกซอกในบ้านทุกซอกมุมโดยเฉพาะในห้องครัว ห้องน้ำและห้องเก็บของที่อยู่ชั้นล่างเพื่อให้สัตว์มีพิษที่หลบซ่อนอยู่หนีออกจากที่ซ่อน 3.ซ่อมแซมจุดแตกร้าว รอยต่อหรือซอกหลืบที่เกิดจากการทรุดตัวของดินไม่ให้เป็นที่อาศัยของสัตว์มีพิษ 4.หลีกเลี่ยงการเก็บกวาด หรือทำความสะอาดในเวลากลางคืนถ้าแสงไฟไม่เพียงพอ แต่หากมีความจำเป็นให้ใช้ไฟฉายช่วยเพื่อป้องกันสัตว์มีพิษ และ 5.หากพบงูให้ค่อยๆถอยออกมาช้าๆ ไม่ควรตีหรือพยายามจับงูด้วยตนเอง ซึ่งตามปกติแล้วงูมักจะไม่เข้ามาทำร้ายถ้าไม่ถูกรบกวน หากอยู่ในเขต กทม.ให้รีบแจ้งที่สายด่วน 191 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือสายด่วน 199 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร แต่หากอยู่ในส่วนภูมิภาคให้แจ้งที่สายด่วน 191 หรือหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ เพื่อดำเนินการจับงูไปปล่อยในพื้นที่ๆเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงทุกซอกทุกมุมของตัวบ้าน แต่หากไม่มีการป้องกันสัตว์มีพิษเหล่านี้ก็สามารถกลับเข้ามากบดานในบ้านเรือนได้แม้ไม่มีเหตุน้ำท่วม จึงควรรักษาความสะอาดบริเวณบ้านอย่างสม่ำเสมอจนเป็นนิสัย อย่าให้มีพื้นที่ๆมีการกดทับของสิ่งของ อาทิ ก้อนหิน กระถางต้นไม้ หรือโพรงดิน หากมีการปลูกต้นไม้ในบริเวณบ้าน ควรตัดแต่งให้ไม่ให้รกรุงรังพร้อมกับกำจัดเศษใบไม้ ใบหญ้าทุกครั้ง ไม่ควรกองทิ้งไว้เพราะจะทำให้เป็นที่อาศัยของสัตว์และแมลงมีพิษ เนื่องจากสัตว์เหล่านี้มักอาศัยอยู่ตามที่เย็นเพื่อหลบซ่อนความร้อนจากดวงอาทิตย์และออกหากินในเวลากลางคืน และให้ทิ้งเศษขยะ/เศษอาหาร ในภาชนะที่ปิดมิดชิดเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนูและแมลง ซึ่งจะเป็นการสร้างห่วงโซ่อาหารให้งู ตะขาบ และแมงป่องได้ .-สำนักข่าวไทย