กรุงเทพฯ 24 ต.ค. – ดีเดย์พรุ่งนี้รถตู้โดยสารสาธารณะไปต่างจังหวัดทุกคันต้องเข้าใช้สถานีขนส่งทั้ง 3 แห่ง พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชน จัดรถชัทเทิลบัสให้บริการรับ-ส่งจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปทุกสถานี ตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วม 4 จุด ตามสถานีขนส่งและอนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อประเมินผลการให้บริการทุกวัน
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป รถตู้โดยสารสาธารณะหมวด 2 ที่วิ่งให้บริการเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร ต้องเข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งจตุจักร (หมอชิต) สถานีขนส่งสายใต้ (ปิ่นเกล้า) และสถานีขนส่งเอกมัย เป็นจุดจอดรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งคณะกรรมการจัดระเบียบและแก้ไขปัญหารถตู้โดยสารสาธารณะจะติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิด ผ่านการทำงานประสานความร่วมมือในการกำกับดูแลการให้บริการและอำนวยความสะดวกประชาชนอย่างเป็นระบบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ทหาร, ตำรวจ, บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.), กรมการขนส่งทางบก, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และกรุงเทพมหานคร เพื่อดูแลความปลอดภัย รวมทั้งป้องกันมิจฉาชีพและการเอาเปรียบ
ด้าน บขส.ได้จัดเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับรถตู้เข้าใช้พื้นที่พร้อมทุกด้านแล้ว มีจุดจอดรอ จุดพักคอยสำหรับรถตู้รองรับเพียงพอ โดยสถานีขนส่งจตุจักร รองรับจำนวนรถได้ 2,046 คัน สถานีขนส่งสายใต้ รองรับได้ 1,617 คัน และสถานีขนส่งเอกมัย รองรับได้ 542 คัน รวม 4,205 คัน โดยจัดจุดจอดแบ่งตามเกาะต่างๆ เหมือนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อความคุ้นชินของผู้โดยสาร และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ขสมก.ได้จัดรถชัทเทิลบัสวิ่งให้บริการรับส่งฟรี เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 3 แห่ง อย่างเพียงพอ พร้อมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วม 4 จุด คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 3 แห่ง และอนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อร่วมติดตามประเมินผลการให้บริการเป็นประจำทุกวัน ซึ่งผู้โดยสารที่ใช้บริการสามารถแสดงความคิดเห็น แนะนำการให้บริการ เพื่อปรับปรุงแนวทางการให้บริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสารมากที่สุด ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ ต้องจอดให้บริการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารประจำจังหวัด หรือสถานที่ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดจัดไว้ให้ใช้เป็นจุดบริการ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนไม่นำรถตู้เข้าใช้สถานีทั้ง 3 แห่ง มีความผิดทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการขนส่ง โดยกรมฯ จะดำเนินมาตรการลงโทษสูงสุดตามกฎหมายทุกกรณี และหากพบการกระทำผิดซ้ำซากจะพิจารณาเพิกถอนรถออกจากบัญชีประกอบการ และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการเดินรถด้วย ทั้งนี้ การจัดระเบียบและกำหนดให้ต้องเข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสาร เป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเป็นไปตามเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบการขนส่งที่ทางราชการกำหนดให้รถโดยสารสาธารณะทุกคันต้องใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารเป็นต้นทางและปลายทาง โดยมีหน่วยงานกำกับดูแลการบริหารจัดการ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชน บริหารจัดการตารางการเดินรถ ควบคุมอัตราค่าโดยสาร การเรียกเก็บค่าโดยสาร แก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล และช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่เขตเมืองของกรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการให้บริการให้มีมาตรฐาน สร้างความพึงพอใจและเชื่อมั่นในการเดินทาง ประชาชนสามารถสอบถามรายละเอียดการเดินทาง หรือร้องเรียนปัญหาจากการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ โทร. 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย