หนุ่มวัย 37 หอบลูก 22 วัน ตามหาภรรยา

ชัยภูมิ 4 ก.ย. – ชายอายุ 37 ปี อุ้มลูกน้อย 22 วัน นั่งรอภรรยาที่หมอชิต เจ้าตัวบอกกับผู้พบเห็นว่าตนกำลังจะพาลูกและภรรยากลับบ้านที่ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ แต่ถูกภรรยาทิ้งไปหาผู้ชายอื่น


หลังจากมีกระแสข่าวในโลกโซเชียลว่ามีชายอายุ 37 ปี อุ้มลูกน้อยวัย 22 วัน นั่งรอภรรยาที่หมอชิต โดยเจ้าตัวบอกกับผู้พบเห็นว่าตนเองกำลังจะพาลูกและภรรยากลับบ้านที่อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ แต่มาถูกภรรยาทิ้งไปหาผู้ชายอื่น พร้อมกับนำเงินที่ตนเองทำงานมาได้ไปหมด ทิ้งเพียงนมบางส่วนและลูกน้อยอยู่กับตนเอง

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 121/1 บ้านห้วยกนทา อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ได้พบกับนายบุญมา วรกฎ อายุ 71 ปี และนางละมูล วรกฎ อายุ 65 ปี เป็นลุงและป้าของชายในคลิป


โดยนางละมูลบอกว่าคนในภาพคือหลานชาย ชื่อนายเกียรติศักดิ์ไพศาล ไพบูลย์ อายุ 37 ปี ตนเองเป็นพี่สาวแม่ของนายเกียรติศักดิ์ไพศาล ที่เสียชีวิตไปนานกว่า 10 ปีแล้ว หลังจากทราบข่าวหลานชายไปโผล่ในคลิปก็ยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่าเรื่องเป็นเช่นไร แต่หลานชายยังไม่กลับมาถึงบ้าน มีเพียงโทรมาหาก่อนที่จะเป็นกระแสข่าวเพียง 2-3 วัน ว่าโดนแฟนทิ้งแล้วก็ขาดการติดต่อไปเลย ขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้ เพราะหลานชายคนนี้ไม่มีโทรศัพท์ติดตัว ทั้งนี้ อยากบอกหลานว่าหากเป็นเรื่องจริงก็อยากให้หลานพาลูกน้อยกับมาตั้งหลักที่บ้านก่อนว่าจะเอาอย่างไรต่อไป สงสารเด็กทารกใหม่ที่เพิ่งคลอดด้วย  

อย่างไรก็ตาม ทั้งป้าและลุงก็ไม่มีรายได้อะไร มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุเพียงเดือนละ 600 บาท พร้อมกับของลุงอีก 700 บาท และงานรับจ้างทั่วไปเท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้ก็รับภาระเลี้ยงดูลูกคนโตของนายเกียรติศักดิ์ไพศาลอีก 1 คน ที่อดีตก็เคยมีภรรยาแล้วทิ้ง ทิ้งลูกมาให้ลุงป้าเลี้ยงไว้แล้ว 1 คน ที่ปัจจุบันน้องเองกำลังเรียนอยู่ ป.6 ขณะที่บุตรสาวของนายเกียรติศักดิ์ไพศาลวัย 11 ขวบ บอกว่ารู้สึกสงสารพ่อ อยากให้พาน้องกลับมาบ้านก่อนในช่วงนี้ เพราะไม่รู้ว่าพ่อจะมีสภาพจิตใจเป็นอย่างไร .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย