ทำนียบรัฐบาล 4 ก.ย.-ที่ประชุมปฏิรูปบริหารราชการแผ่นดินชุดที่ 5 รายงานอียูพอใจไทยแก้ปัญหา IUU พล.อ.ประวิตรกำชับเร่งแก้ไขปัญหามากขึ้น ย้ำ นอกจากปลดธงแดง ICAO แล้ว ต้องพัฒนาอุตสาหกรรมการบินให้มีประสิทธิภาพด้วย
พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิช โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมรายงานผลการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU ซึ่งภาพรวมมีความคืบหน้ามาก โดยเฉพาะผลการเจรจาล่าสุดระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป(อียู) ระหว่างวันที่ 3-17 กรกฎาคมที่ผ่านมา
“อียูเห็นความตั้งใจของรัฐบาลในความพยายามสร้างความเข้มแข็งและการบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหา IUU โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ เช่น กฎหมายเรือไทย กฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย และการกำหนดแผนควบคุมและติดตามเรือ เจ้าของเรือ และประวัติเรืออย่างละเอียด นอกจากนี้ยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงอีก 16 ฉบับ ที่ต้องดำเนินการ โดยพล.อ.ประวิตรกำชับให้กรมประมงในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบ ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาทุกมิติให้เป็นรูปธรรม” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ที่ประชุมรายงานการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ซึ่งไทยยังถูกจัดให้อยู่ในอันดับTier 2 Watch List หรือ ประเทศที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ โดยกำลังเร่งดำเนินการตามข้อแนะนำ 11 ข้อของสหรัฐฯ เช่น การปฏิรูปกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย การตรวจสอบบริษัทจัดหาแรงงงานต่างด้าว การสร้างความส่วนร่วมของภาคประชาสังคม การสร้างแรงจูงใจในการให้ข้อมูลการกระทำผิดเกี่ยวกับการกระทำผิด การเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางการร้องทุกข์ และการพิสูจน์สัญชาติ เป็นต้น ซึ่งพล.อ.ประวิตรย้ำว่า ต้องดำเนินการให้หลุดจากTier 2 Watch List ด้วยการดำเนินการที่ตอบโจทย์ 11 ข้อ โดยกระทรวงแรงงาน กรมประมง และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องแก้ปัญหาให้ต่อเนื่องและสำเร็จ
ด้านพ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวว่า คณะอนุกรรมการแก้ปัญหาการบินพลเรือน(ICAO) รายงานการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย โดยในส่วนของใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ ขณะนี้ออกใบอนุญาตให้สายการบินแล้ว 9 สายการบิน อยู่ระหว่างตรวจสอบสถานีหลักภาคอากาศ 4 สายการบิน และอยู่ระหว่างตรวจเอกสาร 7 สายการบิน
“ได้ส่งจดหมายแจ้งไปยังสายการบินที่ไม่ผ่านการประเมิน 16 สายการบิน ให้เร่งเข้ารับการตรวจประเมิน เพราะหากไม่ได้ใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ ต้องงดการบินระหว่างประเทศจนกว่าจะมีใบอนุญาต ซึ่งเริ่มมาตรการแล้วตั้งแต่ 1 กันยายนนี้ ทั้งนี้ เรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย ทาง ICAO จะส่งบุคลากรมาตรวจสอบในช่วงปลายเดือนกันยายนหรือต้นเดือนตุลาคมฎ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ส่วนการตรวจสอบมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย ทาง ICAO ได้ส่งตัวแทนเข้าตรวจสอบแล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งที่สำนักงานการบินพลเรือน สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งผลการตรวจไม่พบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญ จึงขอให้ไทยนำประสบการณ์และผลจากการตรวจประเมินไปพัฒนามาตรฐานต่อไป อย่างไรก็ตาม จะแจ้งความชัดเจนว่าไทยจะได้รับการปลดธงแดง ICAO หรือไม่ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม ซึ่งพล.อ.ประวิตรย้ำให้เร่งดำเนินการ ไม่เพียงแต่ปลดธงแดงเท่านั้น แต่ต้องการให้อุตสาหกรรมการบินของไทยมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย
