กทม.4 ก.ย.- กองปราบนำสำนวนฟ้อง 8 ข้อหาพร้อมโฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาในคดีส่งพนักงานอัยการพิจารณาให้ความเห็น นัดฟังคำสั่ง 27 กันยายนนี้
พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำตัว นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ส่งฟ้องต่ออัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ข้อหา ประกอบด้วย ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต โดยยุยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2)(3) หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งความดำเนินคดี
คดีนี้สืบเนื่องจากวันที่ 11 ธันวาคม 2559 นายองอาจ ได้แถลงการณ์ที่วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี จำนวน 10 ข้อ มีลักษณะส่อไปในทางยุยงปลุกปั่นว่า ในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของรัฐที่จะเข้าตรวจค้น วัดพระธรรมกายจะบังเกิดความรุนแรง ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับสถาบันพระพุทธศาสนา อันเนื่องมาจากการดำเนินการที่ไม่ชอบธรรม อันอาจเข้าข่ายทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กลั่นแกล้ง และอาจนำไปสู่การก่อเหตุรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อมีการเข้าปฏิบัติการตามหน้าที่ จึงเห็นว่า ข้อความและพฤติการณ์ดังกล่าว ส่อเจตนาเพื่อกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2)(3
นายองอาจ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยัน การทำหน้าที่ทุกครั้ง ไม่ได้ต้องการ ยุยงปลุกปั่น ให้เกิดความไม่สงบขึ้น หรือทำให้ประชาชนละเมิดกฎหมาย สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่ในทางกลับกันต้องการ สะท้อนความคิดเห็น และความรู้สึก ของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก็คือศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้มีความเข้าใจ และหาทางออก ของปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาก็ ไม่เจอพระธัมมชโย เลย ส่วนทางวัดก็มีการจัดกิจกรรมไปตามปกติ นอกจากนี้ยังเตรียม ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรม ต่ออัยการเพราะเห็นว่าการกระทำของตน ยังไม่เข้าองค์ประกอบตามมาตรา 116 เพราะไม่มีเจตนาพิเศษ อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 27 กันยายนนี้ เวลา 09.30 น.-สำนักข่าวไทย
