เพชรบูรณ์ 31 ส.ค.-กลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คนตั้งแก๊งขโมยตู้บริจาควัด สารภาพหาเงินไปเล่นเกม พบอายุเพียง 10-17 ปี
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่วัดแห่หนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มีขโมยซึ่งเป็นเยาวชนแอบเข้ามาขโมยตู้บริจาคภายในวัด จึงเดินทางไปตรวจสอบ พระชัยวัฒน์ เปิดเผยว่าตั้งแต่เข้าพรรษาปี 2560 เป็นต้นมา ที่วัดแห่งนี้ถูกขโมยตู้บริจาคและตู้ทำบุญไปแล้วกว่า 10 ครั้ง โดยเฉพาะในเดือนสิงหาคมเพียงเดือนเดียว ถูกขโมยไปแล้ว 7 ครั้ง และกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ มีลักษณะเป็นวัยรุ่นอายุไม่น่าจะเกิน 15 ปี กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. ได้มีเยาวชน 3 คน มาด้อมๆมองๆ อยู่ที่กำแพงวัด จึงนำตัวมาสอบถามพบว่ามีอายุเพียง 14 ปี เท่านั้น ได้รับสารภาพว่ากำลังจะมาขโมยตู้บริจาคภายในวัดแห่งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาเพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกัน ได้เคยมาขโมยไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงได้เรียกผู้ปกครองมาพบ แต่บางรายผู้ปกครองไม่มา จากนั้นจึงนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยก่อนหน้าที่จะนำตัวไปส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หนึ่งใน 3 คนได้บอกว่าคืนวันที่ 26 สิงหาคม สมาชิกรุ่นใหญ่จะเข้ามาขโมยตู้ในวัดอีก จึงได้แอบเฝ้าระวังจนกระทั่งเที่ยงคืนไม่มีวี่แววว่าคนร้ายจะมาจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน กระทั่งช่วงเช้ามาดูกล้องวงจรปิดก็พบว่าคนร้ายได้เข้ามาหลังจากชาวบ้านกลับไปไม่ถึงชั่วโมง จากนั้นได้วางแผนล่อจับคนร้าย โดยใช้ธนบัตรใบละ 1,000 บาท ถ่ายเอกสารให้เหมือนจริงแล้วนำไปใส่ตู้บริจาคภายในวิหารรูปหล่อหลวงปู่สิ้ว อดีตเจ้าอาวาสเพื่อล่อคนร้าย และใช้เชือกเอ็นผูกกับตู้บริจาคจากนั้นก็โยงไปมัดไว้กับกระดิ่ง เมื่อคนร้ายมายกตู้บริจาคก็จะทำให้กระดิ่งดัง กระทั่งคืนวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังจะจำวัดนั้น ได้ยินเสียงกระดิ่งดังขึ้น จึงได้ลุกออกมาดู พบว่ามีคนกำลังอุ้มตู้บริจาคลงจากวิหาร จึงตะโกนให้พระที่อยู่ในวัดและชาวบ้านช่วยกันสกัดและสามารถจับกุมตัวได้ ปรากฏว่าเป็นเยาวชนทั้ง 3 คน อายุ 13 – 17 ปี
จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือขโมยจริงโดยก่อนหน้านั้นได้มีกลุ่มของเพื่อนๆ ในแก๊งที่มีประมาณ 20 คน อายุระหว่าง 10 – 17 ปี จับกลุ่มเดินสายขโมยตู้บริจาคตามวัดต่างๆ ในเขตพื้นที่อำเภอหล่มสัก เมื่อได้เงินแล้วก็จะเอาไปเล่นเกมส์ เนื่องจากติดเกมส์อย่างมาก ประกอบกับมีบางร้านเปิดให้เล่นตลอด 24 ชั่วโมง จากนั้นจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวเพื่อนำไปสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พระชัยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งหมดเป็นเยาวชน เมื่อถูกจับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องปล่อยตัวออกมาเพราะไม่สามารถเอาไปจำคุกได้ บางรายก่อเหตุมาแล้วนับสิบครั้ง จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ปกครองได้หาวิธีการแก้ไขปัญหานี้โดยเร่งด่วน พร้อมทั้งติดตามจับกุมผู้ที่ยังหลบหนี เพราะในอนาคตเด็กเหล่านี้อาจจะไปก่อเหตุที่รุนแรงกว่านี้ก็เป็นได้.-สำนักข่าวไทย