ทนายเตรียมยื่นประกัน บุญทรง ใหม่อีกรอบพร้อมคำอุทธรณ์คดี

กรุงเทพฯ 31 ส.ค.- ทนายแจ้ง “บุญทรง” ให้ทราบแล้วว่าศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว หลังยื่นรอบสองในวันนี้   เตรียมยื่นประกันใหม่อีกรอบพร้อมคำอุทธรณ์คดี   เผย “บุญทรง” สุขภาพดีขึ้น  


เมื่อเวลา 15.00 น. นายนรินทร์ สมนึก ทนายความนายบุญทรง เตยาภิรมย์  จำเลยที่ 2 คดีทุจริตโครงการระบายข้าวรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี  เปิดเผยภายหลังทราบคำสั่งศาลไม่ให้ประกันตัวนาบบุญทรง   รอบสองว่า  ตนได้แจ้งคำสั่งศาลให้นายบุญทรงทราบแล้ว  โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  มีคำสั่งระบุว่ายังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม  ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะเตรียมทำคำอุทธรณ์คดีเพื่อยื่นให้ทันตามกฎหมายบัญญัติไว้ 30 วัน   ส่วนเรื่องประกันตัวตอนนี้ยังจะไม่ยื่นคำร้องใหม่   แต่วางแนวทางไว้ว่าจะยื่นคำร้องขอประกันตัวครั้งใหม่พร้อมกับคำอุทธรณ์คดี 

นายนรินทร์  ยังกล่าวอีกว่าสำหรับหลักทรัพย์ที่ได้ยื่นประกันตัวล่าสุดในครั้งนี้ก็เป็นหลักทรัพย์เดิม  ส่วนคำร้องก็ได้ระบุเหตุผลไว้  ซึ่งเป็นเรื่องของข้อกฎหมายที่ให้ศาลวินิจฉัยเกี่ยวกับการประกันตัวโดย ไม่ได้ระบุถึงเหตุเรื่องสุขภาพของนายบุญทรง  ทั้งนี้เราก็ยอมรับและเคารพถึงเหตุผลที่ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว   สำหรับนายบุญทรงนั้นขณะนี้เรื่องสุขภาพมีอาการที่ดีขึ้น  วันนี้ที่ตนได้พูดคุยกับนายบุญทรงน้ำเสียงก็พูดคุยได้ชัดเจน


ด้านนายธนากร แหวกวารี   ทนายความของนายมนัส สร้อยพลอย  อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศจำเลยที่ 4  และจำเลยร่วมกลุ่มอดีตข้าราชการกรมการค้าต่างประเทศ   เปิดเผยว่าสำหรับนายมนัส และจำเลยร่วมที่ 5 และ6 นั้น   ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของนายมนัสจากครอบครัวและหลักฐานอื่นในส่วนของจำเลยร่วม   เพื่อจะประกอบในคำร้องขอประกันตัว  ซึ่งหากเอกสารพร้อมและยื่นทันภายในสัปดาห์นี้ก็จะดำเนินการทันที  มิเช่นนั้นก็อาจจะเป็นสัปดาห์หน้า ส่วนหลักทรัพย์ก็จะยื่นหลักทรัพย์เดิมไว้ก่อน  ทั้งนี้ศาลจะวินิจฉัยอย่างไรก็พร้อมจะดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษานั้นตามรัฐธรรมนูญฯปี  2560   มาตรา 195 ให้ยื่นต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาภายใน 30 วัน   นับจากที่ศาลฎีกาฯมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 25 กันยายน     สำหรับหลักทรัพย์ประกันตัวเดิมของนายบุญทรงนั้น  เป็นเงินสดวงเงิน 30 ล้านบาท   ส่วนนายมนัส 12  ล้านบาท  และของนายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จำเลยที่ 5   กับนายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยงหรือทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ จำเลยที่ 6  หลักทรัพย์เดิมก็คนละ 8 ล้านบาท ขณะที่เหตุผลเดิมที่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในคดีนี้  เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง  เกรงว่าจะหลบหนี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง