กทม.31ส.ค.- นักวิชาการทะเล ไม่ระบุชัดจระเข้โผล่ชายหาดบางเทา จ.ภูเก็ต เป็นน้ำจืดหรือน้ำเค็ม ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งจับ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว
จากกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโพสต์คลิปผ่านเฟสบุ๊ค ภาพมุมสูงที่ถ่ายด้วยโดรน พบจระเข้ว่ายน้ำอยู่ในทะเล ชายหาดบางเทา จ.ภูเก็ต สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวเน็ต และนักท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าว
นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากภาพที่ปรากฎชัดเจนว่าเป็นจระเข้ ความยาวเกือบ 3เมตร สันนิษฐานได้ว่า มีจระเข้อาศัยอยู่ในทะเลตั้งแต่หาดไม้ขาว ไปจนถึงหาดบางเทา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูเก็ต ส่วนจะเป็นจระเข้น้ำจืด หรือน้ำเค็ม ยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ชัดเจน
บางกระแสที่ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นจระเข้น้ำจืด เพราะหลุดมาจากฟาร์มจระเข้ในพื้นที่ใกล้เคียง หรือขุมเหมือง ที่อยู่ติดกับทะเล แต่หากเป็นจระเข้น้ำเค็ม ที่เคยพบในฝั่งอันดามัน มีหัวกะโหลกเป็นหลักฐานที่เกาะตะรุเตา ซึ่งผ่านมาหลาย 10ปีแล้ว จะเป็นไปได้ไหมที่จะมีจระเข้ตามธรรมชาติเหลืออยู่ตั้งแต่สมัยนั้นถึงตอนนี้ โอกาสมีน้อยมาก ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่
ที่เกี่ยวข้องจับจระเข้ขึ้นมาให้ได้เสียก่อน จึงจะพิสูจน์ทราบได้ ซึ่งกรณีที่พบจระเข้บริเวณชายหาด จ.ภูเก็ต ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี56 แต่เรื่องก็เงียบหายไป
แม้จะมีกระแสข่าว ว่าพบจระเข้บริเวณชายหาดเลพังแล้ว นายธรณ์ กล่าวว่า แต่สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ คือจระเข้อยู่ในทะเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชาวต่างชาติหมุนเวียน 9ล้านคนต่อปี ถ้าตามหลักการของต่างประเทศ จะติดป้ายประกาศเตือนนักท่องเที่ยว แต่สำหรับไทยอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ดังนั้นเจ้าหน้าที่กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนชาวบ้าน ช่วยกันติดตาม จับจระเจ้ขึ้นมาให้ได้ เชื่อว่า จระเข้ยังวนเวียนอยู่แถวหาดลายัน ขึ้นไปทางตอนเหนือของภูเก็ต เนื่องจากบริเวณนั้นมีป่าชายเลน โดยพฤติกรรมจระเข้จะกลับมาที่เดิม ต้องรอจังหวะจระเข้ขึ้นมาอาบแดด หลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกวดขันฟาร์มจระเข้อย่างเข้มงวด มีกระบวนการจัดการที่ชัดเจน รวมถึงคนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นจระเข้ รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
ทั้งนี้ ข้อมูลจากการประมง ระบุว่าจระเข้น้ำจืด หรือจระเข้น้ำเค็ม เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดยเป็นชนิดสัตว์ป่าแพร่พันธุ์ได้ โดยกระจายอำนาจให้กับกรมประมงท้องถิ่นเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีฟาร์มจระเข้ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมประมง 2แห่ง เป็นจระเข้น้ำจืด รวมทั้งหมด 145ตัว .-สำนักข่าวไทย