ไทยออยล์ขยายสถานีจ่ายน้ำมัน


กรุงเทพฯ 30
ส.ค.-ไทยออยล์ ขยายหัวจ่ายน้ำมันและติดตั้งระบบบริหารจัดการคิวรถด้วย
นวัตกรรมที่บริษัทฯ คิดค้นขึ้นเอง ด้านพีทีจี
ปั๊มรายได้จากนอนออยล์ตั้งเป้าให้มีสัดส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่
60% ภายในปี 2565


             นายอธิคม เติบศิริ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท          ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า
ไทยออยล์ได้ขยายสถานีจ่ายน้ำมันไทยออยล์ ศรีราชา จ.ชลบุรี
เพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้า
รองรับอัตราการขยายตัวของลูกค้าที่สูงขึ้น โดยสามารถจ่ายน้ำมันจากเดิม 10-12
ล้านลิตรต่อวัน เป็น 15 ล้านลิตรต่อวัน ด้วยการขยายหัวจ่ายน้ำมันจาก 10
หัวจ่ายเป็น 15 หัวจ่าย โดยมีการติดตั้งระบบ
TAM (Terminal Automation Management) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่บริษัทฯ คิดค้นขึ้น
สามารถบริหารจัดการคิวของรถที่เข้ารับน้ำมันแบบอัตโนมัติและควบคุมระบบการจ่ายน้ำมันให้มีความถูกต้อง
แม่นยำ รวดเร็ว และปลอดภัย  โดยโรงกลั่น
ไทยออยล์ เป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000
บาร์เรลต่อวัน

               นายพิทักษ์ รัชกิจประการ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด
(มหาชน) หรือ
 PTG เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้าในการขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน
หรือ
 Nonoil อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการพึ่งพาธุรกิจน้ำมันเพียงอย่างเดียว และยังขยายธุรกิจ Nonoil ไปยังนอกสถานีบริการอีกด้วย เช่น ร้านกาแฟ Coffee
World และร้านอาหารในเครือ GFA รวมถึงล่าสุดบริษัทได้ลงนามซื้อขายหุ้น และสัญญาร่วมทุนกับบริษัท
ออโต้แบคส์ เซเว่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนใน
 Tokyo Stock
Exchange ประเทศญี่ปุ่น และบริษัท สยาม ออโต้แบคส์ จำกัด
โดยซื้อหุ้นของบริษัทสยาม ออโต้แบคส์ จำกัด สัดส่วน 38.26% มูลค่า 65 ล้านบาท
ซึ่งหลังจากการเข้าซื้อหุ้นแล้ว จะทำให้ศูนย์บริการรถยนต์
 AUTOBACS เป็นผู้ได้สิทธิเพียงผู้เดียวในการขยายศูนย์บริการในประเทศไทย
ซึ่งบริษัทฯมุ่งหวังที่จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรในภาพรวมของบริษัทฯให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
ในขณะเดียวกันบริษัทฯก็มีความมุ่งหวังที่จะเพิ่มสัดส่วนกำไรสุทธิจากธุรกิจ
 Nonoil ให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
โดยบริษัทฯตั้งเป้ามีสัดส่วนกำไรสุทธิจากธุรกิจ
 Nonoil อยู่ที่ 60% ภายในปี 2565

         ด้านธุรกิจน้ำมันบริษัทฯยังคงเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนสถานีบริการในปีนี้ให้ได้อยู่ที่ 1,800 สถานี ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากในปัจจุบันที่มีสถานีบริการ 1,506 สาขาทั่ว
-สำนักข่าวไทย


 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”