มาเลเซีย 29 ส.ค.-บรรยากาศก่อนเกมฟุตบอลทีมชาติไทย พบกับ มาเลเซีย ในรอบชิงชนะเลิศ ที่ชาอลัมห์ สเตเดี้ยม เวลา 19.45 น. โดยมีแฟนบอลเจ้าถิ่นเริ่มทะยอยมาบริเวณสนาม โดยบัตรราคา 21 ริงกิต หรือประมาณ 165 บาท แต่เมื่อวานบัตรเข้าชมเพิ่มขึ้นเท่าตัว ส่วนวันนี้บัตรราคาพุ่งขึ้นถึง 100 ริงกิต หรือประมาณ 800 บาท
ส่วนการรักษาความปลอดภัยเจ้าภาพมาเลเซีย คุมเข้มใช้เครื่องสแกนในการตรวจอาวุธเเละของมีคมเข้ามาในสนาม และได้เตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 5,000 นาย เพื่อรักษาความปลอดภัยที่จะมีแฟนบอลเข้ามาชมเต็มความจุสนาม 80,000 กว่าที่นั่ง ส่วนแฟนบอลชาวไทยได้บัตรเข้าชมเพียงแค่ 5,000 ที่นั่ง โดยแฟนบอลชาวไทยมั่นใจว่าทีมไทยชนะ 2-0
สำหรับทีมไทยชุดนี้ตั้งแต่ “โค้ชโย่ง” เป็นโค้ชสามารถเอาชนะมาเลเซียมา 3 ครั้ง ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเริ่มจากเนชั่นคัพ ที่มาเลเซีย ดูไบคัพ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ไทยชนะ 3-0 เดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยสถิติทีมไมยคว้าเหรียญทองในซีเกมส์ได้มากที่สุด 15 สมัย ตามมาด้วยมาเลเซีย 6 สมัย และเมียนมา 5 สมัย 11 ตัวจริงของทีมชาติไทยคาดว่าจะใช้ระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูเป็นนนท์ ม่วงงาม แบ็กขวา รัตนากร ใหม่คามิ คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ศฤงคาร พรมศุภะ จับคู่กับ วรวุฒิ นามเวช แบ็กซ้าย สุริยา สิงห์มุ้ย ตัวตัดเกมใช้ นพพล พลคำ กับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล 3 ประสานแนวรุกด้านขวาใช้ พิชา อุทรา ด้านซ้ายศศลักษณ์ ไหประโคน กลางตัวรุกวาง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ หน้าเป้าใช้ เจนรบ สำเภาดี กัปตันทีมลงล่าตาข่าย
ส่วนสถิติการพบกันในเกมนัดชิงซีเกมส์ของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย กับ “เสือเหลือง” มาเลเซีย เจอกันทั้งหมด 4 นัด ไทย ชนะ 3 นัด, มาเลเซีย ชนะ 1 นัด, ไทย ยิงได้ 6 ประตู, มาเลเซียยิงได้ 4 ประตู โดย ครั้งล่าสุดซีเกมส์ครั้งที่ 21-ปี 2001 ที่มาเลเซีย เป็นเจ้าภาพ ไทย ชนะ มาเลเซีย 1-0 จากสราวุฒิ ตรีพันธ์.-สำนักข่าวไทย