ขอนแก่น 28 ส.ค.-90 วันในเรือนจำ! พ่อและครอบครัว “เบนซ์” จำเลยคดีร่วมฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” เดินทางรับลูกสาวหน้าเรือนจำขอนแก่น หลังศาลอนุญาตให้ประกันตัว
เรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น ครอบครัวและญาติของ น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ พรหมคุณ เดินทางมารอรับ น.ส.เบนซ์ บริเวณหน้าเรือนจำกลางขอนแก่น หลังจากที่ศาลจังหวัดขอนแก่นมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว หลัง น.ส.เบนซ์ ตกเป็นจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ 1957/2560 ที่มีพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย กับพวกรวม 5 คน ในฐานความผิด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันรอบฝัง ซ่อนเร้น หรือย้ายทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย, ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกระทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร, รับของโจรและเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 22 ส.ค.60 พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง น.ส.เบนซ์ เพียงข้อหาเดียวคือ ข้อหารับของโจร จากการที่กลุ่มผู้ต้องหานำเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปขาย โดยมีการให้การว่า น.ส.เบนซ์มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อขายด้วย ก่อนที่ น.ส.เบนซ์ จะถูกควบคุมตัวมาขออำนาจศาลจังหวัดขอนแก่น ฝากขังผลัดแรกมาตั้งแต่ช่วงบ่าย วันที่ 31 พ.ค.60 ที่ผ่านมา และศาลได้พิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวในวันนี้ รวมระยะเวลาที่ถูกคุมขังภายในเรือนจำ 90 วัน
โดยทันทีที่ประตูเรือนจำเปิดออก น.ส.เบนซ์ เมื่อก้าวขาออกจากประตูเรือนจำ ได้ก้มลงกราบเท้านายพิชัย พรหมคุณ บิดาของเบ๊นซ์ที่มารอรับพร้อมกับลูกชายและลูกสาวของเบ๊นซ์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนที่ น.ส.เบนซ์และครอบครัวได้เจอหน้ากัน ก่อนที่ น.ส.เบนซ์จะกล่าวทั้งน้ำตาว่า เป็นระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ตนถูกคุมขังในเรือนจำ ซึ่งคิดว่าตนจะไม่มีโอกาสได้ออกมาแล้ว แต่ด้วยความเชื่อที่ว่าถ้าตัวเองไม่ได้ทำผิดและเป็นผู้บริสุทธิ์ ท้ายที่สุดก็ต้องได้ออกมา ซึ่งตนรู้สึกดีใจมาก โดยหลังจากนี้ก็จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้านนายพิชัย พรหมคุณ พ่อของ น.ส.เบนซ์ กล่าวว่า ตนอยากขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การช่วยเหลือครอบครัว เพราะตั้งแต่ที่เป็นคดีความ ครอบครัวต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก เพราะ เบนซ์ถือเป็นกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งยังถูกสังคมมองว่าเป็นคนไม่ดี ซึ่งตนก็เชื่อมาโดยตลอดว่าลูกสาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุฆาตรกรรมในคดีนี้
สำหรับการได้รับการประกันตัวในครั้งนี้ เริ่มต้นจากพี่สาวและครอบครัวของ น.ส.เบนซ์ ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม โดยมีการนำพยานหลักฐานที่ยืนยันว่า น.ส.เบนซ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆาตกรรม น.ส.วริศรา หรือ แอ๋ม กลิ่นจุ้ย ซึ่งต่อมาทางกระทรวงยุติธรรม ได้ประสานมายังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น เพื่อติดตามในเรื่องนี้ กระทั่งนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือระดับจังหวัด ภายใต้การกำกับของกระทรวงยุติธรรม ที่ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ ยุติธรรมจังหวัด และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาสังคม ที่ได้ร่วมกันติดตามตรวจสอบและพิจารณากลั่นกรอง ก่อนจะมีการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ
นายนรินทร์ พรหมสาขา ณ สกลนคร ยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การพิจารณาให้ความช่วยเหลือในกรณีของ น.ส.เบนซ์ ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลข้อเท็จจริงตั้งแต่วันแรกที่ได้รับการประสานจากกระทรวงยุติธรรม โดยมีการสืบเสาะหาพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ทราบว่า การที่ครอบครัวของผู้ร้อง เข้าขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรมนั้น มีข้อเท็จจริงอย่างไร โดยจากการลงพื้นที่มีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า ผู้ร้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าหั่นศพ น.ส.แอ๋ม ที่สำคัญคือ น.ส.เบนซ์ ไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี นอกจากนี้ ก่อนที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดจะเข้ามาช่วยเหลือ ได้มีการทำเงื่อนไขเพื่อเป็นหลักประกันว่า เมื่อได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจะไม่ทำผิดเงื่อนไข คือ ไม่มีพฤติการหลบหนี ไม่เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ไม่ไปข่มขู่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี และข้อกำหนดอื่นๆที่กำหนดไว้ โดยเงื่อนไขดังกล่าว มีข้าราชการระดับสูงเป็นผู้ค้ำประกันด้วย ซึ่งทางยุติธรรมจังหวัดได้พิจารณาทั้งในแง่ของข้อกฎหมาย สิทธิ และแง่ของสังคมอย่างระเอียด เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ.-สำนักข่าวไทย