จ.สระแก้ว 28 ส.ค.-นายกฯมอบที่ดินให้สหกรณ์ 4 อำเภอ จ.สระแก้ว ย้ำเป็นประตูการค้าตะวันออก ดูแลประชาชนทุกภาคเท่าเทียม ขอให้เชื่อมั่น ยืนยันไม่ยุ่งกระบวนการยุติธรรม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีและแห่งชาติ(คสช.) เดินทางมายังสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินอำเภอโคกสูง จำกัด เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแก่ประธานสหกรณ์ที่ดินอำเภอโคกสูง (คทช.) จำกัด ประธานสหกรณ์ที่ดินอำเภออรัญประเทศ (คทช.) จำกัด ประธานสหกรณ์ที่ดินอำเภอวัฒนานคร (คทช.) จำกัด และประธานสหกรณ์ที่ดินอำเภอวังน้ำเย็น (คทช.) จำกัด พร้อมกันนี้ได้มอบบ้านจำลอง ป้ายโครงการประชารัฐ ป้ายอาคารอเนกประสงค์ พร้อมมอบต้นมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ท่อนพันธุ์หม่อน เมล็ดพันธุ์ปอเทือง พันธุ์กบนา ให้แก่ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์อำเภอโคกสูง ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ววันนี้ (28 ส.ค.)
นายกรัฐมนตรี กล่าวทักทายประชาชนด้วยสำเนียงอีสาน พร้อมเปิดเผยว่า จังหวัดสระแก้วเป็นพื้นที่ทำงานเก่า จึงมีความคุ้นเคยเกือบทุกซอกทุกมุม จังหวัดสระแก้วเป็นพื้นที่สำคัญในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและพัฒนาด้านการเกษตร โดยรัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อต้องการแก้ปัญหาให้ได้ เมื่อรัฐบาลคิดก็จะต้องเกิดความร่วมมือจากทุกคน โดยระเบิดจากใจของตนเองตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทุกอย่างจะต้องมาจากใจ จึงจะเกิดความร่วมมือและเกิดเป็นรูปธรรม
“ขอประชาชนอย่าเฝ้าดูละครเพียงอย่างเดียว แต่ขอให้ติดตามข่าวสารและสาระด้านการเกษตรและด้านอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และนำมาพัฒนาตนเอง แม้จะบังคับใครไม่ได้ วันนี้จึงต้องจัดระเบียบใหม่เกือนทุกด้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อประชาชน แต่หากเจ้าหน้าที่ทุจริต ขอให้ร้องเรียนมา แต่จะต้องมีหลักฐานเพียงพอ รัฐบาลจะะดูแลประชาชนทุกจังหวัด โดยยึดหลักมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เช่นเดียวกับการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนที่จะต้องจัดระเบียบใหม่และหาพื้นที่ทำกินให้ประชาชน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจัดโซนนิ่งพื้นที่เพื่อให้เกษตรกรปรับตัวรองรับเศรษฐกิจแบบใหม่ ซึ่งจังหวัดสระแก้วถือเป็นประตูการค้าตะวันออกที่เชื่อมโยงกลุ่มประเทศ CLMV ที่จะมีทั้งอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่และการทำเกษตรกรรม ดังนั้น คนในพื้นที่ต้องไม่ให้ใครมาชักจูงจนทะเลาะกันเอง ขอแนะนำเกษตรกรวางแผนการทำเกษตรกรรมว่าจะต้องปลูกอะไร ปลูกอย่างไร เพื่อไม่ให้ราคาตกต่ำ ทุกคนต้องหาศักยภาพตัวเองให้เจอ แล้วเดินหน้าทำอย่างมีคุณภาพ ต้องพัฒนาโดยการให้การศึกษาแก่ลูกหลาน เพื่อกลับมาพัฒนาสังคมชนบท ทั้งหมด ต้องดูที่ต้นทาง ปลายทางและกลางทาง ต้องลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์
“ประเทศไทยต้องเข้มแข็งด้วยตนเอง ด้วยการสร้างกลุ่มสหกรณ์ ทุกคนต้องแข็งแกร่งไปด้วยกัน และไม่ทิ้งคนอื่น ขอให้ทุกคนเชื่อสิ่งที่รัฐบาลแนะนำและกลับมาหากฎหมาย ยืนยันว่าผมไม่ยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ขอประชาชนอย่ารับฟังแต่สื่อ จนหมดความเชื่อมั่นใจตัวผม ผมรู้สึกหมดแรง เพราะไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหา ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนเรื่องประชาธิปไตยไม่ต้องห่วง ทุกอย่างมีกรอบเวลาที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาประเทศจะต้องกลับเข้าสู่ประชาธิปไตยแต่ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแล อย่าให้เกิดปัญหาเหมือนเดิมขึ้นอีก ขอให้เลือกรัฐบาลที่ดูแลทุกคนทุกภาคอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ผมสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะหน้าที่ใดก็ตาม ก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยคิดจะเป็นนายกรัฐมนตรี คิดแต่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการทหารบกที่ปกป้องแผ่นดินไทยอย่างดีที่สุด ขอย้ำว่าผมไม่ใช่คนใจร้าย ไม่ใช่ทหารที่ใช้แต่อำนาจ ขอทุกคนอยู่ด้วยความซื่อสัตย์” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวบรรยายบนเวทีเสร็จสิ้นแล้ว ได้ลงเดินจากเวทีทักทายประชาชนที่ร่วมงาน และกล่าวแซวด้วยมุกตลกจนได้รับเสียงหัวเราะจากประชาชนเป็นอย่างมาก จากนั้น ได้โชว์การทอดไข่เจียว พร้อมกล่าวว่าถ้าไข่เจียวไม่สวย ไม่ใช่เพราะตนทอดไม่เป็น แต่เป็นเพราะน้ำมันไม่ร้อน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมการเลี้ยงปลาดุก พร้อมให้อาหารปลา และโคที่อยู่ในโครงการด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้ตั้งชื่อลูกวัวที่ยังอยู่ในท้องแม่วัวในโครงการว่า “สูงยิ่ง”ซึ่งมีที่มาจากอ.โคกสูง จ.สระแก้ว และจะได้รวยยิ่ง ๆ ขึ้น.-สำนักข่าวไทย