หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้คุณภาพสื่อจะช่วยปกป้องเสรีภาพ สนับสนุนกฎหมายสื่อดูแลกันเอง ไร้อำนาจรัฐแทรกแซง

สถาบันพระปกเกล้า 27 ส.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 9.00 น. วันนี้ (27 ส.ค.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปร่วมเสวนาหัวข้อ บทบาทสื่อมวลชนไทยในยุคเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยภายใต้กติกาใหม่ ที่นักศึกษาหลักสูตรวุฒิบัตรความรู้ทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า จัดขึ้น


โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า หากสังคมต้องการประชาธิปไตย สื่อมวลชนก็เป็นปัจจัยสำคัญ เพื่อให้กลไกการตรวจสอบในสังคมเกิดขึ้นได้ และสื่อยังจะต้องเป็นผู้นำทางความคิด หากสื่อไม่ทำหน้าที่นี้ แต่อ้างเพียงสะท้อนสิ่งที่เป็นอยู่ สังคมก็จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ส่วนปัญหาของสื่อมวลชนเมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้วจนมาถึงปัจจุบันยังวนเวียนกับปัญหา 2 เรื่อง คือ เรื่องเสรีภาพ และคุณภาพของสื่อ แต่ปัจจุบันเสรีภาพสื่อมวลชนไทย กลับอยู่ในอันดับต่ำกว่า 100 ดังนั้น เสรีภาพของสื่อจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่กลับถูกอำนาจรัฐและธุรกิจเข้ามาควบคุม คุกคาม แทรกแซง เช่น กรณีที่นักข่าวอิศรา ถูกกระบวนการยุติธรรมเข้ามาคุกคามการทำหน้าที่ตรวจสอบ และยังรวมไปถึงกรณีของนายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสที่เนื้อหาต่างๆ ที่เจ้าตัวแสดงออกนั้น ไม่น่าถึงขนาดถูกกฎหมายความมั่นคงเข้ามาแทรกแซง จึงสะท้อนให้เห็นว่า สื่อมวลชนถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ

นายอภิสิทธิ์ ยังมองถึงกรณีที่รัฐบาลขอความร่วมมือสื่อมวลชนร่วมทำข่าว ครม.สัญจรว่า ไม่เชิงเป็นการแทรกแซง แต่เป็นการขอความร่วมมือที่ไม่ถูกวิธีการ พร้อมระบุถึงปัญหาของสื่อมวลชนปัจจุบัน คือ หลายสื่อมวลชน เลือกที่จะจำกัดเสรีภาพตัวเอง เพราะมีสื่อมวลชนที่ตัดสินใจยุติการนำเสนอข่าวล่อแหลม เพื่อความอยู่รอดของตนเองและผู้มีอำนาจรัฐ เพราะกลัวเกิดความขัดแย้ง แต่นายอภิสิทธิ์ มองว่า การกระทำเช่นนี้ จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น เพราะประชาชนจะไม่มีข้อมูลตัดสินใจที่เพียงพอมากกว่า 


นายอภิสิทธิ์ ยังแสดงความเป็นห่วงต่อเรื่องคุณภาพสื่อมวลชนว่า หากสื่อมวลชน ยังถูกสังคมมองว่าไม่มีคุณภาพ จะยิ่งทำให้สังคมไม่คิดปกป้องเสรีภาพสื่อ 

“ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่า คนที่เรียกตัวเองว่าสื่อมวลชนนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ สื่อมวลชนมักจะรายงานเหตุการณ์ที่เกิดจากโซเชียลมีเดียเป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่ไม่รู้ว่าใครเป็นโพสต์ด้วย ดังนั้น คำถามคือใครเป็นผู้สื่อข่าวกันแน่ ผมสงสัยที่รัฐบาลจะออกกฎหมายว่า ใครเป็นสื่อมวลชนต้องมีใบอนุญาต แล้วจะนับอย่างไรว่าใครเป็นสื่อมวลชน แล้วที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกรายการทุกวันศุกร์นั้น จะต้องมีใบอนุญาตสื่อด้วยหรือไม่” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากสื่อไม่แยกการทำข่าวกับการทำธุรกิจนั้น ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจแล้ว แต่รวมถึงภาครัฐด้วย เพราะข่าวบางข่าวเป็นข่าวประชาสัมพันธ์ให้กับภาครัฐ ปัญหาต่อมาคือ สื่อจะรับผิดชอบต่อประชาชนอย่างไร และเมื่อสังคมเป็นสังคมที่แบ่งขั้ว ต่างฝ่ายต่างไม่ฟังกันมากขึ้น การที่จะให้สังคมตรวจสอบสื่อจึงเป็นไปได้ยาก แต่ยืนยันว่า กฎหมายที่รัฐบาลชุดนี้จะออกมา ตนไม่ยอมรับเรื่องการให้คนของภาครัฐเข้ามายุ่งกับสื่อ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของภาครัฐ ส่วนเรื่องใบประกอบวิชาชีพนั้น เห็นว่า ไม่สามารถทำได้ แต่หากจะไม่ให้มีกฎหมายออกมา สื่อจะตอบคำถามได้หรือไม่ว่า สื่อจะให้ความเป็นธรรมอย่างแท้จริงได้อย่างไร จึงกลายเป็นเรื่องยากที่ให้สื่อกำกับดูแลกันเอง ดังนั้น ต้องมีกฎหมายที่ออกมากำกับสื่อ มอบดาบกับสื่อมวลชน เพื่อให้การกำกับควบคุมกันเองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแต่สื่อจะต้องไม่ถูกแทรกแซงจากอำนาจรัฐ สื่อต้องจัดระบบธรรมาภิบาลของสื่อ หากสื่อคิดว่า รายงานอะไรก็ได้ วันนี้ใครรายงานอะไรก็ได้อยู่แล้ว จึงเป็นสิ่งที่น่าคิดว่า สื่อจะทำอย่างไรให้เห็นว่า คุณค่าความเป็นวิชาชีพสื่อต่างจากคนที่ไม่ใช่สื่อ 


นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ก็จะต้องมีกฎหมายดูแลสื่อ แต่ต้องแก้ปัญหาการใช้อิทธิพลของภาครัฐและธุรกิจเข้ามามีอำนาจต่อรองในสื่อ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองและสื่อมวลชน ต้องพึ่งพากันและกัน แต่ก็ยอมกันและกันไม่ได้ เพราะต่างฝ่ายต้องทำหน้าที่ของตนเอง

ด้านนายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์ไทยและประธานคณะทำงานสื่อเพื่อการปฏิรูป กล่าวว่า ข่าวต้องเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ตนยอมรับความคิดของนายอภิสิทธิ์ที่เห็นว่า ทุกวันนี้สื่อตามกระแสในโซเชียลมีเดีย แต่กลับไม่มีคำถามว่า ข้อมูลนั้นเป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ ขณะที่เห็นการพัฒนาของสื่อรุ่นใหม่ และเห็นการถดถอยของบางสื่อ ยอมรับเป็นห่วงเพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบทบาทของโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดคำถามว่า คนยังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หรือไม่ โซเชียลมีเดียในแง่บวกก็ทำให้โลกเปิดกว้าง ทำให้คนในสังคมตระหนักว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งสื่อในกระแสหลักอีกต่อไป  ขณะที่ยอดส่งหนังสือพิมพ์ลดลงเรื่อยๆ วงการโทรทัศน์ก็เช่นเดียวกัน ในอดีตมีเพียงไม่กี่ช่อง แต่ปัจจุบันมีจำนวนมาก เชื่อว่า อีกไม่นาน ประชาชนจะอ่านหนังสือพิมพ์และติดตามข่าวทางโทรทัศน์น้อยลง แต่คนในสังคมติดตามโซเชียลมีเดียมากขึ้น 

“เมื่อสื่อแข่งขันกันมาก ก็จะมีผลกระทบกับวิชาชีพสื่อ บางสำนักข่าวยอมเป็นเครื่องมือทางการตลาด ทุกวันนี้เริ่มแยกไม่ออกกับข่าวและการโปรโมทสินค้า ผมเป็นห่วงว่า นักข่าวรุ่นใหม่จะแยกไม่ออกระหว่างการทำหน้าที่สื่อตามวิชาชีพกับเรื่องของธุรกิจ ทีวีดิจิตอลหลายช่องเริ่มไปไม่รอด มีการเทคโอเวอร์เกิดขึ้น สื่อกระแสหลักทยอยอยู่ในการควบคุมของธุรกิจรายใหญ่ 

นายเทพชัย ยังยืนยันว่า สื่อควรกำกับดูแลกันเอง ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายให้อำนาจในเชิงลงโทษกับองค์กรสื่อ เพราะมีโอกาสที่จะถูกแทรกแซงจากการเมืองได้ แตสื่อเองต้องกลับมาทบทวนบทบาทของตนเอง สังคมก็ต้องถามตัวเองว่า พร้อมที่จะมีบทบาทในการตรวจสอบและกำกับสื่ออย่างไร เพราะสุดท้ายแล้วสื่อย่อมกลัวผู้บริโภค ยอมรับว่า สังคมขณะนี้ตื่นตัวสูงมาก ถ้ามองในแง่บวก พบว่า โซเชียลมีเดียเริ่มมีบทบาทในการตรวจสอบสื่อกระแสหลักแล้ว ดังนั้น สื่อต้องแก้ไขภาพลักษณ์ในสายตาคนในสังคม และหากจะให้สื่อมีประสิทธิภาพ สังคมก็ควรตื่นตัวในการตรวจสอบสื่อเช่นกัน 

“เราคงปฏิเสธการมีกฎหมายไม่ได้ ยอมรับว่า มีจุดอ่อนที่ไม่มีอำนาจการลงโทษ องค์กรสื่อก็หนักใจ เพราะฉะนั้นการมีกฎหมาย มีการกำหนดให้ระดับการกำกับดูแลสื่อ ก็เป็นกระบวนการที่องค์กรสื่อเห็นว่าควรจะมี แต่ยังถกเถียงเรื่องการมีอำนาจกำกับดูแล แต่ไม่ใช่หน้าที่ของภาครัฐที่จะกำกับดูแลสื่อ” นายเทพชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชาวแม่อายกังวลพบสารหนูในร่างกาย สธ.ยันไม่เกินมาตรฐาน

เชียงใหม่ 8 ก.ค. – หลังชาวบ้านริมลำน้ำกก บริเวณชายแดนด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เครียดและกังวลกับปัญหาสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกก ส่งผลต่อวิถีชีวิตและการใช้น้ำมานานกว่า 3 เดือน ตอนนี้ชาวบ้านยิ่งตื่นกลัวมากขึ้น หลังมีกระแสข่าวการสุ่มตรวจปัสสาวะเด็กในชุมชนอย่างน้อย 2 คน พบสารหนูในร่างกาย ขณะที่สาธารณสุขเชียงใหม่ ยอมรับการสุ่มตรวจกลุ่มเสี่ยง 10 ราย พบสารหนู 9 ราย แต่ไม่เกินมาตรฐาน.-สำนักข่าวไทย

ค้นรัง “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “ฮุนเซน”

8 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” ค้น 19 จุด 3 จังหวัด เครือข่าย “ก๊กอาน” เจ้าพ่อคราวน์กาสิโน คนสนิท “สมเด็จฮุน เซน” ตามหมายจับสมคบกันก่ออาชญากรรมข้ามชาติ พัวพันในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต กัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

ทบ.พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม ปัดโต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน

สุรินทร์ 8 ก.ค.- ทบ. พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม หวังเรียกนักท่องเที่ยวดูโบราณสถาน มองเป็นเรื่องดี หลังประชาชนทะลักเข้าชมปราสาท เผยไม่โต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน มุ่งยึดการสื่อสาร ไทย-กัมพูชา ไม่พัฒนาไปสู่ความตึงเครียด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อยากให้พาสื่อมวลชนส่วนกลางมาลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี โดยอยากให้สื่อสัมผัสกับพื้นที่จริง 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 คือทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนที่ 2 เรื่องของพื้นที่ส่วนหลังในเรื่องความพร้อมต่าง ๆ ที่ทางทหารและฝ่ายปกครองได้เตรียมความพร้อมกันไว้ ซึ่งปราสาทตาเมือนธมเป็นจุดแรกที่เป็นจุดที่มาลงพื้นที่หลังฟังคำบรรยายของกองกำลังสุรนารี โดยส่วนหนึ่งที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อเยี่ยมชมโบราณสถาณที่สำคัญ ตามจริงเราขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมถึงได้มีการมอบสิ่งของบำรุงขวัญและให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ผ่านมามีปากเสียงกันในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการรับรายงานเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ได้รับรายงาน ส่วนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับข้อมูล ถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่น่ากังวล ผู้ปฏิบัติงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 8 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ SPLASH – Soft Power Forum 2025 ชี้วัฒนธรรมไทยมีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก ตั้งเป้าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH – Soft Power Forum 2025) ณ เวทีกลาง Exhibition Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนเข้าร่วม โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีโอกาสได้มางานนี้อีกครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเป็นปีที่แรก และปีนี้งานยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจและอีกหลายปัจจัยทั่วโลก ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราต้องมีการปรับตัวที่เพิ่มมากขึ้น ตนเชื่อว่าการเข้าสู่บริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น การเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก […]