สำนักข่าวไทย 25 ส.ค.- กรมราชทัณฑ์ เตรียมส่ง ‘บุญทรง- ภูมิ’ และผู้ที่ได้รับโทษเกิน 15 ปี ไปคุมขังต่อที่เรือนจำกลางคลองเปรม
นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวภายหลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดีระบายข้าวจีทูจี โดยศาลพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1-23 โดยให้จำคุกนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว 42 ปี นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว 36 ปี นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ 40 ปี นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตผู้อำนวยการ สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ และอดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ 32 ปี นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือ ทีปวัชระ อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศและอดีตผู้อำนวยการ สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ 24 ปี นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร 48 ปี ส่วนจำเลยอื่นจำคุกลดหลั่นตามพฤติการณ์ โดยทั้งหมดถูกตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครแล้ว
นายกอบเกียรติ กล่าวว่า ทั้งหมดถูกส่งตัวไปที่เรื่อนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยอยู่ในขั้นตอนการทำประวัติ และตรวจร่างกายก่อนที่จะเข้าสู่เรือนจำในแดนแรกรับ สำหรับโทษของผู้ต้องขังในคดีนี้ถือว่าเป็นโทษที่หนัก จึงจะทำการย้ายผู้ต้องขังที่มีโทษตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป อาทิ นายบุญทรง นายภูมิ ไปอยู่ที่เรือนจำคลองเปรม ส่วนคนอื่นๆ ที่โทษต่ำกว่า 15 ปีก็จะให้อยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป
ส่วนจะส่งไปอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรมได้เมื่อใดนั้น ก็ต้องรอดูว่าวันนี้ (25 ส.ค.) จะสามารถทำประวัติและตรวจร่างกายทั้งหมดได้ทันก่อนเวลา 18.00 น.หรือไม่ หากเสร็จก่อนก็จะส่งตัวไปเรือนจำกลางคลองเปรมทันที แต่หากเสร็จไม่ทันก็จะให้ทั้งหมดอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร 1 คืน ก่อนที่ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (26 ส.ค.) จะแยกผู้ที่โทษหนักส่งไปยังเรือนจำกลางคลองเปรมต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ต้องขังทั้งหมดจะให้อยู่ในแดนแรกรับทั้ง 2แห่งการดูแลจะได้เน้นย้ำกำชับให้เจ้าหน้าที่เรือนจำเฝ้าดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ ส่วนการประกันตัว ต้องรอหนังสืออย่างเป็นทางการจากศาลส่งมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะได้ส่งต่อไปยังเรือนจำของผู้ที่ได้รับการประกันตัว โดยจะทำการปล่อยตัวที่เรือนจำนั้นๆ ได้เลย.-สำนักข่าวไทย