สุวรรณภูมิ 23 ส.ค.-ตำรวจท่องเที่ยว เผยเทรนด์ใหม่โจรสนามบิน ลงทุนซื้อตั๋วถูก แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว ขโมยทรัพย์สิน ทั้งในสนามบินและบนเครื่องบิน เร่งอบรมเจ้าหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพรักษาความปลอดภัย
พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ในยุคตั๋วเครื่องบินถูก ทำให้มิจฉาชีพลงทุนซื้อตั๋ว แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เดินทางมาขโมยทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวทั้งบนเครื่องบิน เวลาที่นักท่องเที่ยวหลับ หรือเผลอ และในสนามบิน โดยเป้าหมายจะเป็นกระเป๋าหรู บนสายพาน โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะอาศัยช่วงชลมุน ที่นักท่องเที่ยวรอกระเป๋าบนสายพาน พอเห็นว่ากระเป๋าที่หมายตาไว้วนไปตามสายพานแล้วไม่มีเจ้าของมารับ ก็จะรีบหยิบไปทันที
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่มุ่งขโมยทรัพย์ของนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางกลับประเทศ มุ่งไปที่รถไฟฟ้าขบวนที่เดินทางไปสนามบิน บริเวณสนามบินหรือสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายที่นักท่องเที่ยวที่กรุ๊ปทัวร์นัดพานักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมก่อนขึ้นเครื่องกลับประเทศ เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะเดินทางกลับประเทศตามเที่ยวบินที่ได้จองไว้ เมื่อเกิดเหตุจึงไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ ทำให้มิจฉาชีพลักษณะนี้เพิ่มขึ้น และยากที่จะจับกุม ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพ ประกอบกับเพื่อสอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลกำหนดให้ปี 2561เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย จึงจัดโครงการรณรงค์เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย การให้บริการ และอำนวยความสะดวกเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวเพื่ออบรมเสริมสร้างคามรู้ความเข้าใจแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชนและ ประชาสังคม กว่า 150 คน ให้เป็นเครือข่ายเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพราะลำพังตำรวจเองอาจดูแลไม่เพียงพอ จึงต้องอาศัยคนในสังคมเป็นหลักในการคอยแจ้งเหตุและคอยแนะนำแก่นักท่องเที่ยวด้วย
พล.ต.ต.ประเสริฐ กล่าวต่อว่า ครึ่งปีแรกของปีนี้ พบเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วกว่า 300 คดี โดยเป็นคดีที่เกิดขึ้นกับชาวต่าง 120 คดี ตำรวจท่องเที่ยวไม่นิ่งนอนใจส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ ออกตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง เตือนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ไม่ว่าเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ให้ระวังตัวและดูแลทรัพย์สินของตนให้ดี ของมีค่าควรเก็บไว้กับตัวเอง .-สำนักข่าวไทย