นายกฯประชุม กรอ. ภูมิภาค หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคอีสาน

นครราชสีมา 21 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีประชุมกรอ.ภูมิภาค เห็นชอบกับแผนพัฒนาแหล่งน้ำ-คมนาคมขนส่งหลายโครงการ 


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมร่วมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและตัวแทนภาคเอกชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ( กรอ.ภูมิภาค) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ รมว.ด้านเศรฐกิจ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม เพื่อหารือกับภาคเอกชนหวัง สร้างความเข้มแข็งของฐานเศรษฐกิจภายในควบคู่กับการแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่เชื่อมโยง กทม. และพื้นที่ EEC เพื่อพัฒนาเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ๆ ของภาค  การพัฒนาความร่วมมือและใช้ประโยชน์จากข้อตกลงกับประเทศเพื่อนบ้านในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดน (มุกดาหาร หนองคาย นครพนม) และแนวระเบียงเศรษฐกิจ EWEC (ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร) เหนือ-ใต้ (ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย)  เพื่อสร้างเมืองโคราชให้เป็นมหานครแห่งภาคอีสาน 

นายชัชวาล วงศ์จร ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ที่ประชุม กรอ.ภูมิภาค เห็นชอบในหลักการแผนผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มายังเขื่อนลำตะคลอง เนื่องจากช่วงฤดูน้ำหลากหน้าฝน ปริมาณน้ำจำวนมากท้ายเขื่อนป่าสักจะถูกทะบายทิ้งลงทะเล ขณะที่เขื่อนลำตะคลองรองรับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยน้อยมาก แต่รองรับการบริโภคในจังหวัดนครราชสีมาหลายอำเภอรวมทั้งเมืองโคราช จึงเห็นชอบให้ศึกษาผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม (EIA) วงเงิน 30 ล้านบาท เพื่อยกระดับการสูบน้ำขึ้นสิ่งก่อสร้างความสูงเกือบร้อยเมตร และปล่อยระบบน้ำไหลตามแนวระบบส่งน้ำ มายังเขื่อนลำตะคลอง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนับล้านลูกบาศก์เมตร ด้วยวงเงินลงทุน 4,400 ล้านบาท ที่ประชุมยังสั่งการให้


ศึกษาแหล่งน้ำแก้มลิงกักเก็บในภาคอีสานหลายแห่ง ป้องกันปัญหาน้ำหลากไหลทิ้งเมื่อปริมาณน้ำจำวนมาก แต่เมื่อเกิดปัญหาภัยแล้ง ปริมาณฝนน้อยต้องการน้ำจำวนมากกลับไม่น้ำสำรองใช้ทั้งภาคเกษตรและบริโภค

และเห็นชอบการแผนก่อสร้างวงแหวนรอบนอกเมืองโคราช ระยะทาง 110 กิโลเมตร หลังจากได้ก่อสร้างตอนที่ 1 ไปแล้ว จึงมอบหมายให้เร่งรัดโครงการตอนที่ 2,3 ซึ่งเดิมกำหนดศึกษาผลกระทบ EIA ในปี 63 และ 64 ให้นำทั้งสองโครงการมารวมศึกษาให้แล้วเสร็จในปี 60 เพื่อก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 63 จะทำให้วงแหวนรอบนอกครบรอบทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง กระทรวงคมนาคมจึงนำไปพิจารณาแผนก่อสร้าง นอกจากนี้ยังเห็นชอบแผนยกระดับรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ- ขอนแก่นชุมทางจิระอุบลราชธานีและชุมทางมาบกะเบา-จิระ  ซึ่งวิ่งผ่านตัวเมืองโคราช จากแผนเดิมสร้างบนพื้นที่ผ่านตัวเมือง แต่กลุ่มชาวบ้านคัดค้าน เนื่องจากการสร้างแนวรั้วตลอดเส้นทาง จึงกระทบต่อการเดินทางของชาวบ้านในเขตเมืองโคราช ทำให้ถูกแบ่งแยกเมืองออกเป็นสองฝั่ง ที่ประชุม กรอ.ภูมิภาค จึงให้เห็นชอบให้ยกระดับรถไฟทางคู่วิ่งผ่านเมืองโคราช แม้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 2,000 ล้านบาท 

นายวิเชียร จันทรโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวชี้แจงที่ประชุมว่า  ที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดสรรงบกลุ่มจังหวัดเพิ่มเติมปีงบประมาณ 60 รวมเป็นเงิน  1,862 ล้านบาทและมีโครงการเพิ่มเติมได้แก่โครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลหรือตำบลละ 5 ล้านบาทจำนวน 4,480 โครงการงบประมาณ 1,317 ล้านบาทโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐหรือหมู่บ้านละ 200000 บาทจำนวน 4,196 โครงการงบประมาณรวม 745 ล้านบาทโครงการหมู่บ้านละ 250,000 บาท จำนวน 4,026 โครงการงบประมาณ 934 ล้านบาทโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืนในพื้นที่ 361 ชุมชน จำนวน 1,070 โครงการงบประมาณ 832 ล้านบาทโครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐการเพิ่มรายได้ด้วยอาชีพที่มีมูลค่าเหมาะสมกับพื้นที่โครงการอินเตอร์เน็ตประชารัฐ


สำหรับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต ได้มีโครงการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาวงเงินประมาณ 5 แสนล้านบาท ได้แก่โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 (มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน- นครราชสีมา) โครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ- ขอนแก่นชุมทางจิระอุบลราชธานีและชุมทางมาบกะเบา-จิระ โครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-หนองคายระยะที่ 1 เริ่มช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมาระยะทาง 253 กิโลเมตร  เพื่อใช้เดินทางจากกรุงเทพมาถึงนครราชสีมาจาก 4 ถึง 6 ชั่วโมงเหลือ 1.30 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังมี ยังมีโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน  ผ่านโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตรวบรวมและแปรรูปข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ของสหกรณ์การเกษตรพิมายโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ในเขตพื้นที่นำร่องระยะสั้น การลดพื้นที่ปลูกข้าวในทะเลไม่เหมาะสมเพื่อเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่มีศักยภาพทดแทน    โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง  โครงการเพิ่มประสิทธิภาพพัฒนาการผลิตอ้อยตลอดจนโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพโอทอป  โครงการปรับปรุง emergency find way เขื่อนลำพระเพลิงสามารถเพิ่มความจุกักเก็บน้ำเขื่อนลำพระเพลิงได้อีก 50 ล้านลบ.ม. เพิ่มขึ้นเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 18,000 ไร่อีกทั้งยังช่วยป้องกันน้ำท่วมในเขตอำเภอปักธงชัยอำเภอโชคชัยและเขตเศรษฐกิจเมืองนครราชสีมารวมถึงเป็นแหล่งน้ำไผ่ประปาให้อำเภอปักธงชัยอำเภอโชคชัยและอำเภอเมืองนครราชสีมาในอนาคต

นับได้ว่าในช่วง 3 ปี  รัฐบาล เน้นการสร้างพื้นฐานความแข็งแกร่งของประเทศเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน จังหวัดนครราชสีมามีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด  253,974 ล้านบาท จากนั้นในปี 2558 จีดีพีเพิ่มขึ้นมาเป็น 264,964 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละจากปีก่อน 4.3  ต์รายได้ผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัวอยู่ที่ 1,600 บาท หรือเพิ่มขึ้น 4551 บาทเติบโตจากปีก่อนหน้า 4.5 เปอร์เซ็นต์และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2559 ถึง 2556 ก่อให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]