นายกฯประชุม กรอ. ภูมิภาค หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคอีสาน

นครราชสีมา 21 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีประชุมกรอ.ภูมิภาค เห็นชอบกับแผนพัฒนาแหล่งน้ำ-คมนาคมขนส่งหลายโครงการ 


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมร่วมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและตัวแทนภาคเอกชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ( กรอ.ภูมิภาค) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ รมว.ด้านเศรฐกิจ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ อุตสาหกรรม เพื่อหารือกับภาคเอกชนหวัง สร้างความเข้มแข็งของฐานเศรษฐกิจภายในควบคู่กับการแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่เชื่อมโยง กทม. และพื้นที่ EEC เพื่อพัฒนาเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ๆ ของภาค  การพัฒนาความร่วมมือและใช้ประโยชน์จากข้อตกลงกับประเทศเพื่อนบ้านในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดน (มุกดาหาร หนองคาย นครพนม) และแนวระเบียงเศรษฐกิจ EWEC (ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร) เหนือ-ใต้ (ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย)  เพื่อสร้างเมืองโคราชให้เป็นมหานครแห่งภาคอีสาน 

นายชัชวาล วงศ์จร ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ที่ประชุม กรอ.ภูมิภาค เห็นชอบในหลักการแผนผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มายังเขื่อนลำตะคลอง เนื่องจากช่วงฤดูน้ำหลากหน้าฝน ปริมาณน้ำจำวนมากท้ายเขื่อนป่าสักจะถูกทะบายทิ้งลงทะเล ขณะที่เขื่อนลำตะคลองรองรับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยน้อยมาก แต่รองรับการบริโภคในจังหวัดนครราชสีมาหลายอำเภอรวมทั้งเมืองโคราช จึงเห็นชอบให้ศึกษาผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม (EIA) วงเงิน 30 ล้านบาท เพื่อยกระดับการสูบน้ำขึ้นสิ่งก่อสร้างความสูงเกือบร้อยเมตร และปล่อยระบบน้ำไหลตามแนวระบบส่งน้ำ มายังเขื่อนลำตะคลอง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนับล้านลูกบาศก์เมตร ด้วยวงเงินลงทุน 4,400 ล้านบาท ที่ประชุมยังสั่งการให้


ศึกษาแหล่งน้ำแก้มลิงกักเก็บในภาคอีสานหลายแห่ง ป้องกันปัญหาน้ำหลากไหลทิ้งเมื่อปริมาณน้ำจำวนมาก แต่เมื่อเกิดปัญหาภัยแล้ง ปริมาณฝนน้อยต้องการน้ำจำวนมากกลับไม่น้ำสำรองใช้ทั้งภาคเกษตรและบริโภค

และเห็นชอบการแผนก่อสร้างวงแหวนรอบนอกเมืองโคราช ระยะทาง 110 กิโลเมตร หลังจากได้ก่อสร้างตอนที่ 1 ไปแล้ว จึงมอบหมายให้เร่งรัดโครงการตอนที่ 2,3 ซึ่งเดิมกำหนดศึกษาผลกระทบ EIA ในปี 63 และ 64 ให้นำทั้งสองโครงการมารวมศึกษาให้แล้วเสร็จในปี 60 เพื่อก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 63 จะทำให้วงแหวนรอบนอกครบรอบทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง กระทรวงคมนาคมจึงนำไปพิจารณาแผนก่อสร้าง นอกจากนี้ยังเห็นชอบแผนยกระดับรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ- ขอนแก่นชุมทางจิระอุบลราชธานีและชุมทางมาบกะเบา-จิระ  ซึ่งวิ่งผ่านตัวเมืองโคราช จากแผนเดิมสร้างบนพื้นที่ผ่านตัวเมือง แต่กลุ่มชาวบ้านคัดค้าน เนื่องจากการสร้างแนวรั้วตลอดเส้นทาง จึงกระทบต่อการเดินทางของชาวบ้านในเขตเมืองโคราช ทำให้ถูกแบ่งแยกเมืองออกเป็นสองฝั่ง ที่ประชุม กรอ.ภูมิภาค จึงให้เห็นชอบให้ยกระดับรถไฟทางคู่วิ่งผ่านเมืองโคราช แม้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 2,000 ล้านบาท 

นายวิเชียร จันทรโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวชี้แจงที่ประชุมว่า  ที่ผ่านมารัฐบาลได้จัดสรรงบกลุ่มจังหวัดเพิ่มเติมปีงบประมาณ 60 รวมเป็นเงิน  1,862 ล้านบาทและมีโครงการเพิ่มเติมได้แก่โครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลหรือตำบลละ 5 ล้านบาทจำนวน 4,480 โครงการงบประมาณ 1,317 ล้านบาทโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐหรือหมู่บ้านละ 200000 บาทจำนวน 4,196 โครงการงบประมาณรวม 745 ล้านบาทโครงการหมู่บ้านละ 250,000 บาท จำนวน 4,026 โครงการงบประมาณ 934 ล้านบาทโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืนในพื้นที่ 361 ชุมชน จำนวน 1,070 โครงการงบประมาณ 832 ล้านบาทโครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐการเพิ่มรายได้ด้วยอาชีพที่มีมูลค่าเหมาะสมกับพื้นที่โครงการอินเตอร์เน็ตประชารัฐ


สำหรับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต ได้มีโครงการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาวงเงินประมาณ 5 แสนล้านบาท ได้แก่โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 (มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน- นครราชสีมา) โครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ- ขอนแก่นชุมทางจิระอุบลราชธานีและชุมทางมาบกะเบา-จิระ โครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-หนองคายระยะที่ 1 เริ่มช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมาระยะทาง 253 กิโลเมตร  เพื่อใช้เดินทางจากกรุงเทพมาถึงนครราชสีมาจาก 4 ถึง 6 ชั่วโมงเหลือ 1.30 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังมี ยังมีโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน  ผ่านโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตรวบรวมและแปรรูปข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ของสหกรณ์การเกษตรพิมายโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ในเขตพื้นที่นำร่องระยะสั้น การลดพื้นที่ปลูกข้าวในทะเลไม่เหมาะสมเพื่อเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่มีศักยภาพทดแทน    โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง  โครงการเพิ่มประสิทธิภาพพัฒนาการผลิตอ้อยตลอดจนโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพโอทอป  โครงการปรับปรุง emergency find way เขื่อนลำพระเพลิงสามารถเพิ่มความจุกักเก็บน้ำเขื่อนลำพระเพลิงได้อีก 50 ล้านลบ.ม. เพิ่มขึ้นเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 18,000 ไร่อีกทั้งยังช่วยป้องกันน้ำท่วมในเขตอำเภอปักธงชัยอำเภอโชคชัยและเขตเศรษฐกิจเมืองนครราชสีมารวมถึงเป็นแหล่งน้ำไผ่ประปาให้อำเภอปักธงชัยอำเภอโชคชัยและอำเภอเมืองนครราชสีมาในอนาคต

นับได้ว่าในช่วง 3 ปี  รัฐบาล เน้นการสร้างพื้นฐานความแข็งแกร่งของประเทศเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน จังหวัดนครราชสีมามีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด  253,974 ล้านบาท จากนั้นในปี 2558 จีดีพีเพิ่มขึ้นมาเป็น 264,964 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละจากปีก่อน 4.3  ต์รายได้ผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัวอยู่ที่ 1,600 บาท หรือเพิ่มขึ้น 4551 บาทเติบโตจากปีก่อนหน้า 4.5 เปอร์เซ็นต์และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2559 ถึง 2556 ก่อให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้