ราคาถ่านหินตลาดจรแตะ 100 ดอลลาร์ฯ/ตัน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – ราคาถ่านหินขาขึ้นอีกราคาล่วงหน้าส่งมอบ ก.ย.แตะระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ส่งผลบ้านปูฯ กำไรสูง คาดราคาตลาดโลกปีหน้าไม่น่าจะต่ำกว่า 80-85 ดอลลาร์ฯ/ตัน


นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยราคาถ่านหินล่วงหน้าตลาดจรเดือนกันยายนแตะระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/ตันอีกครั้ง หลังเกิดการประท้วงของแรงงานออสเตรเลียและฝนตกในอินโดนีเซีย ประกอบกับ กำลังผลิตใหม่ของโลกไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แต่ความต้องการยังคงขยายตัวร้อยละ 3 ต่อปีจากความต้องการใช้ 930 ล้านตัน/ปี ส่วนใหญ่นำไปผลิตไฟฟ้าจนมีสัดส่วนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าถึงร้อยละ 50 โดยแม้ในปี ค.ศ. 2035 ทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency, IEA) จะประเมินว่าสัดส่วนผลิตไฟฟ้าของถ่านหินจะลดลงเหลือร้อยละ 30 โดยสัดส่วนของก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 30 ที่เหลือเป็นเชื้อเพลิงอื่น ๆ เช่นพลังงานทดแทน แต่จากความต้องการไฟฟ้ายังเติบโตสูงมาก โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ จีน ขณะที่ถ่านหินยังมีราคาต่ำและสามารถจัดการด้านมลพิษด้วยเทคโนโลยีสะอาดได้ โดยคาดราคาเฉลี่ยตลาดโลกปีหน้าจะยังใกล้เคียงปีนี้ที่ 80-85 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน

ในส่วนของบริษัทบ้านปู เนื่องจากมียอดขายกำหนดราคาล่วงหน้าไว้แล้วเกือบร้อยละ 70 ดังนั้น ราคาเฉลี่ยของบริษัทครึ่งแรกของปีจึงอยู่ที่ 66.6 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน สูงกว่าราคาเฉลี่ยปีที่แล้วที่อยู่ที่ประมาณ 55 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน โดยในส่วนยอดขายอยู่ที่ 45 ล้านตัน/ปี


สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของบ้านปูฯ ทั้งจากปัจจัยราคาถ่านหิน ,ธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่รับรู้กำไรเพิ่มขึ้นและธุรกิจไฟฟ้าที่เดินเครื่องผลิตได้ต่อเนื่องในไตรมาสส่งผลครึ่งปีแรก 2560 ของบริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 1,266 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 43,425 ล้านบาท)  เพิ่มขึ้น 244 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8,369 ล้านบาท)  หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA รวม 431 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14,784 ล้านบาท)  และมีกำไรสุทธิรวม 107 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,670 ล้านบาท) 

“บ้านปูมองถึงธุรกิจในอนาคตขยายทั้งธุรกิจเชลล์ก๊าซในสหรัฐ การปรับปรุงประสิทธิภาพเหมืองถ่านหินและการซื้อเหมืองใหม่ในอินโดนีเซียขนาดเล็ก ๆ รอบ ๆ เหมืองปัจจุบัน เพื่อผสมกันเพื่อให้คุณภาพดีขึ้นตามความต้องการของตลาด และจะขยายธุรกิจไฟฟ้าให้มากยิ่งขึ้น” นางสมฤดี กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนธุรกิจเชลล์ก๊าซในสหรัฐปัจจุบันลงทุนไปแล้ว 207 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลิตก๊าซ 49 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน มีรายได้ 30 ล้านดอลลาร์/ปี ตั้งเป้าจะลงทุนเพิ่มเป็น 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อผลิตก๊าซให้ได้78 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน หรือมีรายได้ 75 ล้านดอลลาร์/ปี บนพื้นฐานราคาก๊าซประมาณ 2.9 ดอลลาร์/ล้านบีทียู


ด้านนายวรวุฒิ ลีนานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปูเพาเวอร์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายจะให้มีกำลังผลิตเพิ่มจากสิ้นปีนี้ 2,057 MW เป็น 4,300 MW ในปี ค.ศ.2025 โดยจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนจากปัจจุบันร้อยละ 12 เป็นร้อยละ 20 หรือ 1,000 MW โดยกำลังผลิตไฟฟ้าปัจจุบันมีทั้งในจีน ญี่ปุ่น ไทย และ สปป.ลาว ซึ่งกำลังผลิตที่จะเพิ่มขึ้นจากทั้งอาเซียน ญี่ปุ่นและจีน.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย