ปตท.สผ.พร้อมร่วมประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณ

กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – ปตท.สผ.พร้อมเข้าร่วมประมูลสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุ ทั้งแหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณ เพื่อมีส่วนร่วมผลิตก๊าซธรรมชาติจากทั้ง 2 แหล่ง และให้บริษัทไทยมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ ยืนยันความพร้อมกับระบบแบ่งปันผลผลิต (PSC) เพราะมีประสบการณ์การทำงานภายใต้รูปแบบนี้ในโครงการต่างประเทศ


นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ. มองว่าเป็นการดีที่ ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสัญญาแบ่งปันผลผลิตทั้ง 3 ฉบับ  และเห็นชอบในประกาศร่างประกาศคณะกรรมการปิโตรเลียม  เนื่องจากกฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับนี้จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ทำให้การประมูลสัมปทานที่จะหมดอายุ คือ แหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากการประมูลมีความล่าช้ามาระยะเวลาหนึ่งแล้ว

“พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลทั้งในแหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณ และในฐานะที่ ปตท.สผ.เป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติซึ่งมีรัฐเป็นผู้ถือหุ้น จึงมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้ชนะการประมูล เพื่อให้บริษัทไทยมีส่วนร่วมในการผลิตก๊าซธรรมชาติจากทั้ง 2 แหล่ง บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเสนอประโยชน์ที่เหมาะสมที่สุดให้กับภาครัฐ” นายสมพร กล่าว


ทั้งนี้ แหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ โดยการผลิตก๊าซธรรมชาติจากทั้ง 2 แหล่ง คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของการใช้ก๊าซธรรมชาติรวมทั้งหมดในประเทศ

ส่วนรายละเอียดจากร่างประกาศคณะกรรมการปิโตรเลียมเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดพื้นที่ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐจะใช้ระบบแบ่งปันผลผลิตในการประมูลแหล่งสัมปทานที่จะหมดอายุทั้ง 2 แหล่งนั้น ปตท.สผ. มีประสบการณ์การลงทุนในประเทศต่าง ๆ ที่ใช้ระบบแบ่งปันผลผลิตเป็นเวลาหลายปี ทำให้มีความเข้าใจการทำงานในระบบนี้เป็นอย่างดี อีกทั้งบริษัทยังได้เตรียมความพร้อมทั้งกลไกการทำงานภายในและการสนับสนุนภาครัฐที่สามารถทำให้การดำเนินการผลิตเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ด้านเงื่อนไขการเปิดประมูลหรือทีโออาร์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปริมาณการผลิตหรือราคานั้น จากความรู้และความคุ้นเคยในพื้นที่ ปตท.สผ. เตรียมที่จะนำเสนอประโยชน์ที่เหมาะสมที่สุดให้รัฐ ซึ่งนอกจากผลประโยชน์ที่รัฐจะได้จากข้อเสนอในการประมูลแล้ว รัฐยังจะได้รับผลประโยชน์ทางอ้อมในฐานะผู้ถือหุ้น ปตท.สผ. อีกทางหนึ่งด้วย” นายสมพร กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง