เมืองทอง 16 ส.ค.-นายกฯ แจงประเทศต้องมีศักยภาพทางยุทโธปกรณ์ เพื่อป้องอธิปไตย พร้อมขอให้ใช้โซเชี่ยลแบบคนพัฒนาแล้ว ขอบคุณช่วยตรวจสอบ วอนอย่าตัดสินแทนศาล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ที่ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ถึงเรื่องความมั่นคง ว่า ต้องมีการเตรียมให้พร้อมรักษาอธิปไตย อย่างที่เห็นอยู่ในขณะนี้ 2 ประเทศมีศักยภาพทางยุทโธปกรณ์ แม้จะยังไม่รบกัน แต่ก็ทำให้ทั่วโลกวิตก ดังนั้นไทยก็จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมไว้
“เราไม่ต้องไปฮึ่มกับใคร แค่ฮึ่มกันเองก็วุ่นพอแล้ว ไม่ต้องฮึ่มกันมากนัก ดังนั้นต้องมีการเตรียมความพร้อมเรื่องอธิปไตยเพื่อศักยภาพ เพิ่มอำนาจที่ไม่มีตัวตน เพื่อให้เขาเกรงใจ เพื่อฝึกรบ ลาดตระเวน ต้องดูแลทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ซึ่งเราทำคนเดียวไม่ได้ ต้องร่วมกับมิตรประเทศรอบบ้าน แล้วจะเอาอะไรที่ขี้กะโล้โท้ไปอยู่กับเขาเหรอ ในเมื่อเขามีการพัฒนาแล้วเราไม่ได้พัฒนาเหรอ ไม่ได้ ต้องคิดสองด้าน นี่คือความมั่นคง รัฐบาลต้องจัดสรรงบฯ ให้เหมาะสม เพื่อเตรียมความพร้อมนี้ทุกประเทศก็จะให้ประเทศไทยร่วมมือลาดตะเวนทางทะเล ช่วยผู้ลี้ภัย แก้ปัญหาโจรสลัด ถ้าเราไม่มีเรือจะเอาเรือประมงไปสู้เขาเหรอ ก็ไปไม่ทันเขา หน้าตาประเทศชาติสำคัญด้วย ในเมื่อเราจะอยู่ในเวทีโลก แต่อย่างไรต้องอยู่พอเพียง โดยอย่างอื่นไม่เสียไปด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนการปฏิรูปกลไกการบริหารประเทศ เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางการเมืองให้สามารถขจัดคอร์รัปชั่นมีกระบวนการยุติธรรมที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่น สังคมเปลี่ยนแปลง ระบบโซเชี่ยลมีเดียกว้างขวาง ใครจะเขียนหรือนึกอะไรก็ได้แต่อยู่ที่ว่าจะเชื่อได้แค่ไหน ดังนั้นทุกคนต้องมีหลักคิด หลักการของตัวเองในการอ่าน เสพ และเชื่อหรือไม่ในข้อมูลที่ผ่านเชี่ยลมีเดีย สิ่งเหล่านี้คือความแตกต่างคนที่พัฒนากับคนที่ยังไม่พัฒนา ดังนั้นต้องให้คนพัฒนาไปด้วยกัน โดยมีหลักคิดพื้นฐานที่ไม่สร้างความขัดแย้ง ไม่ทำให้เกิดปัญหา
“วันนี้ข่าวในโซเชี่ยลมีเดีย หรือข่าวทุกช่อง ทุกคนทำหน้าที่เป็นตำรวจกันหมด โอเคถือว่าดี แต่อย่าไปตัดสินเอง วันนี้จากการตามเป็นตำรวจ เป็นเจ้าหน้าที่เองแล้วยังไปเป็นศาลตัดสินทุกอย่าง อันนั้นผิด อันนี้ใช่หรือไม่ใช่ สรุปเลยทำให้ปั่นป่วนกันไปทั้งหมด ที่ประชาชนมาเฝ้าระวังถือเป็นเรื่องเดียวต้องขอบคุณ แต่ก็ขอให้แจ้งมาตามช่องทาง เพื่อนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อให้เกิดการตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม ผมไม่เคยไปก้าวล่วงสักคำ ที่ผ่านมาหน้าที่ของรัฐบาลคือนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนจะผิดหรือถูกไปสู้กันที่ศาล ซึ่งก็มีทนายสามารถอุทธรณ์ได้ มันรังแกกันไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า กระบวนการยุติธรรมต้องเข้มแข็ง มีการถ่วงดุลกันให้ได้ หลายคนต้องการแบบไหน ไม่ใช่ถ่วงกันไปมาจนทำอะไรไม่ได้อีกเหมือนเดิม ต้องถ่วงในทางสร้างสรรค์ มีระบบการตรวจสอบ คนต้องการปฏิรูปทหาร ปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปกฎหมาย แต่ต้องเข้าใจว่าจะปฏิรูปอย่างไร ไม่ใช่พลิกแผ่นดิน พลิกฟ้าไปอย่างนั้น มันไม่ได้.-สำนักข่าวไทย