กรุงเทพฯ 16 ส.ค.- ตำรวจออกหมายจับเพิ่มอีก 1 แก๊งนายพลอุ้มรีดทรัพย์นักธุรกิจชาวจีน หลังจับจ่ายักษ์ได้เมื่อคืน ขณะที่เจ้าตัวอ้างถูกว่าจ้างให้พาเหยื่อไปพบพลตรีจรูญที่โรงเรียนดอนเมืองเท่านั้น
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 เดินทางมาสอบปากคำ นายอุทิศ ก่อแก้ว หรือ จ่ายักษ์ อายุ 49 ปี ที่ สน.โคกคราม หนึ่งในผู้ต้องหาแก๊งอุ้มรีดทรัพย์นักธุรกิจชาวจีน หลังถูกจับกุมได้ที่อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานีเมื่อกลางดึก ขณะมีพฤติการณ์หลบหนี
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ล่าสุดตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแก๊งนายพลอุ้มรีด อีก 1 คน คือ นายนวพล ท้าวคำหลง อายุ 50 ปี ทำหน้าที่ขับรถวันเกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่าจับกุมได้ใน 1-2 วันนี้ เนื่องจากสืบทราบแหล่งกบดานแล้ว ทั้งนี้เตรียมแจ้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรเพิ่มกับผู้ต้องหาทั้งหมด และขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน การฟอกเงินต่อไป พร้อมชื่นชมเจ้่หน้าที่ใช้เวลาเพียง 4 วัน สามารถจับได้ยกแก๊ง ส่วนคดีอุ้มเจ้าของเต้นท์รถ ที่ สน.วังทองหลาง และ สน.ลาดพร้าว ยังไม่พบความเชื่อมโยงกัน
ด้าน นายอุทิศ หรือ จ่ายักษ์ เบื้องต้นรับสารภาพว่า เป็นอดีตสารวัตรทหาร ร่วมก่อเหตุกับแก๊งดังกล่าวจริง รับทำเป็นครั้งแรก โดยได้รับการว่าจ้างจากสารวัตรณัฐกฤษต์ โดยประสานผ่านทางนายโอภาส ให้ไปเชิญนักธุรกิจชาวจีน พาไปพบพลตรีจรูญ ที่โรงเรียนย่านดอนเมืองเท่านั้น โดยไม่ทราบรายละเอียด ให้เหตุผลว่าชาวจีนใช้บัตรประชาชนปลอม ได้รับค่าจ้าง 30,000 บาท พร้อมปฏิเสธได้รับเงินส่วนแบ่งในการอุ้มรีด 2 ล้านบาท
โดยในวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวน สน.โคกครามจะคุมตัวนายฐิติกร ชื่นอุรา ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกฝากขัง
สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาถูกออกหมายจับข้อหาบุกรุกและกรรโชกทรัพย์ จับกุมได้แล้ว 10 คน ยังเหลือผู้ต้องหาตามภาพวงจรปิดอีก 1 คนเป็นชายสวมหมวกสีเขียว หรือเสี่ยหนุ่ม อยู่ระหว่างติดตามจับกุม
เหตุนี้สืบเนื่องจากกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปที่บริษัทคันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด ก่อนอุ้มนายสุรชัย แซ่ย่าง และนายทรงศักดิ์ วิโรจน์ถาวรกิจ ผู้จัดการ ไปรีดเงินแลกปล่อยตัว ต่อมาผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ จนนำมาสู่การออกหมายจับมีทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน อาทิ พล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พ.ต.ต.ณัฐกฤษต์ ยุทยา สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปอศ.-สำนักข่าวไทย