พระนครศรีอยุธยา 15 ส.ค. – แม่น้องพลอย พร้อมทนายความ เข้าพบ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมมอบช่อดอกไม้และกระเช้าของขวัญขอบคุณที่ช่วยติดตามคดีจนพบร่างบุตรสาว
จากกรณีเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 น.ส.พัชรี ปั้นทอง ชาว อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา แจ้งว่า บุตรสาวชื่อ น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือ น้องพลอย อายุ 24 ปี หายตัวไปหลังเลิกงาน ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งผ่านมากว่า 3 ปี จึงพบว่าน้องพลอยถูกฆ่าเผานั่งยางกลางป่า ในพื้นที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี วันนี้ (15 ส.ค.) น.ส.พัชรี พร้อมทนายความ ได้เข้าพบ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อแจ้งรายละเอียดให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
น.ส.พัชรี กล่าวว่า ไม่เชื่อว่า ส.อ.พลกฤต วิเศษ จะดำเนินการได้คนเดียว เพราะตนเองไปดูที่ฝังศพ พบว่ามีความยากลำบากในการเดินทางและเป็นทางเปลี่ยว คาดว่าต้องมีคนร่วมลงมือไม่น้อยกว่า 2 คน อย่างไรก็ตาม น.ส.พัชรี ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงผู้ที่พาผู้ต้องหาหลบหนีด้วย โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับ ส.อ.พลกฤต ในข้อหาเจตนาฆ่า ปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องต้องการให้ดำเนินคดีในข้อหาให้ที่พักอาศัยกับผู้ต้องหาและพาผู้ต้องหาหลบหนี แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะแจ้งดำเนินคดีกับใครบ้าง ต้องรอผลตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน พร้อมกันนี้ น.ส.พัชรี ได้มอบช่อดอกไม้และกระเช้าของขวัญให้กับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ด้าน พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ระบุคนร้ายมีความเชี่ยวชาญด้านไอทีสูง จึงไม่ทิ้งร่องรอยให้ติดตาม โดยเฉพาะทางเฟซบุ๊ก กระทั่งล่วงเลยมานานถึง 3 ปี ผู้ต้องหาชะล่าใจ จึงพบเบาะแสว่าคนร้ายหลบหนีอยู่ที่ใด และบุกเข้าปิดล้อมจับกุมได้ในเวลา 13 วัน หลังคดีล่วงเลยมานานถึง 3 ปี
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยว่า หลังจากนี้ต้องรอรับตัวผู้ต้องหาจากทหาร เพื่อมาทำการสอบสวนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม แม่น้องพลอยได้ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดผู้ต้องหาจึงสามารถนำรถยนต์ของกลางไปจำหน่ายได้ ทั้งที่น่าจะถูกอายัดไว้. – สำนักข่าวไทย