กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – การทดสอบเดินรถเมล์ ขสมก.ตามแผนปฏิรูปวันแรก กรมการขนส่งทางบกยืนยันจำเป็นต้องดำเนินการให้ระบบรถเมล์เชื่อมต่อระบบขนส่งอื่น ขณะที่ ขสมก.จะใช้เวลา 2 ปี ในการปฏิรูปเร่งจัดหารถเมล์ใหม่ 3,000 คัน ส่วนประชาชนระบุยังสับสนการปรับเปลี่ยนเส้นทางวันแรก
การทดสอบเดินรถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามแผนปฏิรูป โดยพื้นที่เขตการเดินรถที่ 4 พระรามเก้า ผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก ขสมก.ได้ร่วมเปิดเดินรถที่ดำเนินการปฏิรูปเส้นทางวันแรก โดยเขตการเดินรถแห่งนี้จะมีรถเมล์สาย B44 ปรับเปลี่ยนเส้นทางจากรถเมล์สาย 54 เดิม และเริ่มเดินรถคันแรกตั้งแต่เวลา 07.00 น. ซึ่งแผนการเดินรถแต่ละเขตการเดินรถจะมีการจัดรถให้บริการเส้นทางปฏิรูปจำนวน 5 คัน รวม 8 เส้นทาง เริ่มทดสอบเวลา 07.00-18.00 น.ของทุกวัน
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การดำเนินการปฏิรูปเส้นทางเป็นไปตามเป้าหมายให้ระบบรถเมล์โดยสารสามารถเชื่อมต่อระบบขนส่งอื่น ซึ่งระยะ 10 ปีที่ผ่านมาได้มีการปรับเปลี่ยนบริการและมีระบบขนส่งใหม่เกิดขึ้นทั้งรถไฟฟ้า เรือโดยสาร และการให้บริการท่าอากาศยานพร้อมกันทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องปฏิรูปเพื่อให้เส้นทางเข้าถึงประชาชนผู้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง อย่างไรก็ตาม กรมฯ พร้อมรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะรวมถึงเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจเส้นทางมากขึ้น
ขณะที่นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ขสมก.จะใช้เวลา 2 ปีดำเนินการปฏิรูปเส้นทาง เพื่อจัดหารถเมล์ใหม่ 3,000 คัน ประกอบด้วย การนำรถเมล์เก่ามาปรับปรุงสภาพ 700-800 คัน การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ที่ขณะนี้มีผู้ซื้อซองประกวดราคารอบใหม่ 3 ราย หากเป็นไปตามกำหนดจะได้รับรถต้นปี 2561 และการจัดหารถเพิ่มอีก 1,600 คัน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาประเภทเชื้อเพลิงที่เหมาะสมและวิธีการว่าจะจัดซื้อหรือเช่าในอนาคต
ส่วนความเห็นของประชาชนที่โดยสารรถเมล์ปฏิรูปเส้นทางวันนี้ ส่วนใหญ่ยอมรับว่าทราบจะมีการปรับเปลี่ยนเส้นทาง แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มวันนี้ รวมทั้งยังกังวลว่าจะกระทบทำให้เดินทางไปยังจุดหมายที่ตัวเองเคยใช้บริการทุกวันได้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย