นครสวรรค์ 15 ส.ค.-ขณะนี้ปริมาณการส่งออกไข่ไก่ไทยไปยังต่างประเทศมีมากขึ้น ซึ่งในระยะยาวจะลดปัญหาไข่ล้นตลาด อีกทั้งยังทำให้ราคาที่เกษตรกรจะขายได้ปรับตัวสูงขึ้น กรมปศุสัตว์เร่งพัฒนาฟาร์มไก่ไข่ให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ไข่ปลอดโรคและปลอดยาปฏิชีวนะตกค้าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและดีต่อการส่งออก
ไก่ไข่ที่เลี้ยงอยู่ 40,000 ตัว ให้ไข่วันละฟอง ไข่ของฟาร์มแห่งนี้เปลือกสีน้ำตาลเข้ม ไข่แดงสีเข้มเช่นกัน ส่วนไข่ขาวเนื้อเหนียวและใสเหมือนวุ้น ซึ่งถือว่าเป็นไข่คุณภาพดี ที่เป็นเช่นนี้เพราะอาหารที่ให้ไก่มีเมล็ดข้าวโพดปนอยู่ด้วย
ไข่จากฟาร์มแห่งนี้ยังปลอดยาปฏิชีวนะ เพราะน้ำที่ให้ไก่กินผสมฟ้าทะลายโจร สมุนไพรที่มีฤทธิ์ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ ไก่รับเพียงวัคซีนตามคำแนะนำของกรมปศุสัตว์และจะให้ยาเฉพาะเมื่อพบไก่ป่วยเท่านั้น
ปศุสัตว์จังหวัดนครสวรรค์ออกตรวจฟาร์มไก่ไข่ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ว่าเป็นฟาร์มมาตรฐาน ซึ่งมี 10 ฟาร์ม โดยจะตรวจทั้งระบบการป้องกันควบคุมโรคของฟาร์ม เก็บตัวอย่างส่งตรวจในห้องปฏิบัติการทั้งอาหาร น้ำที่ให้ไก่ และไข่ด้วย
มาตรการควบคุมโรคที่เคร่งครัดของกรมปศุสัตว์ ทำให้ไทยปลอดโรคระบาดในสัตว์ปีก ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ ในเอเชียเกิดไข้หวัดนก ต้องทำลายไก่ ไข่จึงมีไม่เพียงพอบริโภคต้องนำเข้า รองอธิบดีกรมศุสัตว์กล่าวว่า ไข่ไก่ร้อยละ 98 บริโภคในประเทศ ส่งออกร้อยละ 2 โดยส่งไปฮ่องกงมากที่สุด ปีนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดตลาดไข่ไก่สดไปฮ่องกงได้เมื่อเดือนเมษายน และล่าสุดเดือนนี้ส่งไปเกาหลีใต้ได้เป็นครั้งแรก ซึ่งการขยายตลาดต่างประเทศได้จะส่งผลให้ราคาไข่จากฟาร์มของเกษตรกรปรับสูงขึ้น
ปีนี้ราคาไข่ไก่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไข่คละหน้าฟาร์มเฉลี่ยฟองละ 2.60 บาท เป้าหมายการส่งออกไปยังเกาหลีใต้ประมาณเดือนละ 32 ล้านฟอง รวมมูลค่าในปีนี้ประมาณ 600 ล้านบาท แก้ปัญหาไข่ไก่ล้นตลาดได้ อีกทั้งยังพยุงราคาไข่ในประเทศไม่ให้ตกต่ำ ฟาร์มเล็กฟาร์มน้อย เกษตรกรรายย่อยอยู่ได้สบาย.-สำนักข่าวไทย