ศรีสะเกษ 11 ส.ค.-ตำรวจ สภ.ศรีสะเกษ สอบเสร็จแล้ว นายทหารยศ ร้อยเอก ต้องสงสัยการหายตัวไปของ ผู้อำนวยการกองการศึกษา อบต.ซำ ล่าสุดตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา แต่นายทหารยังให้การปฏิเสธ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี อาชีพรับราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการกองการศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลชำ อำเภอกันทรลักษ์ ได้หายตัวไป และทางตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ออกหมายเรียกไปถึงนายทหารท่านหนึ่งยศ ร้อยเอก ที่สังกัดกรมทหารราบที่ 6 ให้เข้ามาชี้แจงถึงความสัมพันธ์ และรับทราบข้อกล่าวหา โดย นายทหารยศ ร้อยเอก ได้เข้ามารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวกับทางตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ แล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะใช้เวลากว่า 4-5 ชั่วโมง ในการสอบปากคำกับนายทหาร ยศร้อยเอก คนดังกล่าว
เมื่อเวลาประมาณ 18.20 น. วันที่ 11 สิงหาคม 2560 พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ออกมาจากห้องสอบสวนและได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ที่เรียกนายทหารยศ ร้อยเอก มานั้น ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายทหารคนดังกล่าวว่า ได้กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้เสียเสรีภาพ ข้อหาลักทรัพย์ รับของโจร ข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม ข้อหานำไปซึ่งเอกสารของผู้อื่นทำให้เกิดความเสียหาย รวม 4 ข้อหา เบื้องต้น นายทหารยศ ร้อยเอก ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยให้การว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าว แต่ยังไงก็ตามทางตำรวจก็พอมีหลังฐานในระดับหนึ่งถึงได้ตั้งข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อหานี้ แม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะให้การปฏิเสธก็ตาม
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนนายทหารยศ ร้อยเอก ว่าขณะเกิดเหตุ สาว อบต. จะหายไปนั้น ได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ นายทหารได้ให้การว่า ตอนนั้นไม่ได้อยู่ด้วยกัน ส่วนรถที่นำไปขายนั้น เป็นความต้องการของ นางสาวจุฑาภรณ์ ที่ให้นำไปขายเพื่อนำเงินมาใช้หนี้สิน ส่วนจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นายทหารยศ ร้อยเอก ที่มีการโอนเงินเข้าไปในบัญชีของ นางสาวจุฑาภรณ์ นั้นเป็นเพียงการโอนเงินที่เคยยิบยืมให้คืนเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับ นางสาวจุฑาภรณ์ นั้น นายทหารยศ ร้อยเอก ให้การว่ารู้จักกันในฐานะพี่น้องรู้จักกันเท่านั้น ซึ่งได้รู้จักกันในช่วงปลายปี 2559
ขั้นตอนต่อไปจะส่งมอบ นายทหารยศ ร้อยเอก ให้กับต้นสังกัด ส่วนการสอบสวนยังไม่จบแค่นี้ ถ้ามีความคิบหน้าอะไรก็จะเรียกมาสอบอีกครั้ง แต่ถ้ายังไม่มีอะไร ก็ต้องเข้ามารายงานตัวตามระเบียบ ส่วนเรื่องทางวินัยก็ขึ้นอยู่กับทางต้นสังกัดว่าจะทำอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ใจจริงอยากจะให้จบภายในวันนี้ แต่ยังมีข้อมูลอีกมากที่ต้องสืบสวนต่อ ทั้งนี้คาดว่าไม่เกิน 2 เดือน จะต้องทำสำนวนให้เสร็จ หรืออาจจะเร็วกว่า 2 เดือน.-สำนักข่าวไทย