รัฐสภา 10 ส.ค.-รองโฆษก กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ แจงการพิจารณากฎหมายดังกล่าวต้องแล้วเสร็จภายใน 28 ส.ค.นี้ ก่อนเสนอ สนช.พิจารณา เคาะให้มีกรมน้ำ สังกัดนายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์ วางแผนจัดการแก้ปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบ เตรียมขยายเวลาพิจารณาอีก 60 วัน
พล.ร.อ.วีระพันธ์ สุขก้อน รองโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ เปิดเผยความคืบหน้าในการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว ว่า ขณะนี้พิจารณาไปแล้วกว่า 70 มาตรา จากทั้งหมด 100 มาตรา ทั้งนี้กำหนดระยะเวลาในการพิจารณาของกรรมาธิการฯ ต้องแล้วเสร็จ ภายในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาวาระ 2 และ 3 แต่จะมีการขอขยายเวลาการพิจารณาไปอีก 60 วัน ทั้งนี้ในส่วนของเนื้อหาสาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าว ที่ได้มีการพิจารณาแล้วได้ข้อสรุปเบื้องต้นที่จะให้มีหน่วยงานมารับผิดชอบโดยตรงคล้าย ๆ กรมน้ำ สังกัดนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ใช้ชื่อกรมน้ำ ซึ่งกรรมาธิการฯ จะหารือกันอีกครั้ง เช่นเดียวกับเรื่องโครงสร้างที่ได้ข้อสรุปจากการหารือเบื้องต้นจะนำบุคลากรจากกรมน้ำมาทำงาน และมีหน่วยงานวางแผนการประสานงาน หน่วยงานวิชาการ มีศูนย์ติดตาม เฝ้าตรวจสถานการณ์น้ำตลอดเวลา เพื่อรายงานต่อนายกรัฐมนตรี
“ปัจจุบันมี 30 กว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ แต่ละหน่วยงานมีกฎหมายของตนเอง เช่น ชลประทาน ไฟฟ้า ขาดผู้จัดการ เราก็จะมีอะไรขึ้นมา เช่น เตือนภัยยังไง เตรียมการ ดูแลก่อนเกิดปัญหา ขณะที่เกิดจะทำยังไง ผ่อนหนักเป็นเบา มันมีกฎหมายนี้แล้วจะดีขึ้นแน่นอน ใครจะสั่งการควบคุมทั่วประเทศ” พล.ร.อ.วีระพันธ์ กล่าว
พล.ร.อ.วีระพันธ์ กล่าวอีกว่า กรรมาธิการได้หยิบยกสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันมาพิจารณา และสัปดาห์หน้า พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ จะนำคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อไปศึกษาปัญหาเรื่องน้ำ.-สำนักข่าวไทย
