ทดลองปรับเส้นทางรถเมล์ 8 เส้นทาง 15 ส.ค. -15 ก.ย.

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – เผยทดลองเดินรถ 8 เส้นทาง เบื้องต้นจะทดลองแบ่งรถเส้นทางละ 5 คัน ควบคู่กับการให้บริการในเส้นทางเดิม 15 ส.ค. -15 ก.ย.  


นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายยุกต์ จารุภูมิ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร และนายณันทพงศ์ เชิดชู, นายกมล บูรณพงศ์, นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และนายสุเมธ องกิตติกุล ที่ปรึกษา TDRI และที่ปรึกษาโครงการ เปิดแถลงถึงแนวทางตามแผนปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเดิมที่ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นผู้เดินรถรายเดียว โดย ขสมก. จะมีสถานะเป็นผู้ประกอบการเดินรถรายหนึ่ง ส่วนรถร่วม ขสมก. เดิมจะต้องขอใบอนุญาตประกอบการเดินรถกับกรมการขนส่งทางบกโดยตรง มีผลให้เกิดการแข่งขันด้านคุณภาพการให้บริการอย่างเป็นธรรม เพื่อเพิ่มทางเลือกและการเข้าถึงการให้บริการ ลดการทับซ้อนเส้นทาง เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนประเภทอื่นๆ ตลอดจนรองรับการพัฒนาเมือง ชุมชนที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ภายใต้การยกระดับมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย การคัดเลือกผู้ประกอบการเดินรถด้วยรูปแบบการแข่งขันเชิงคุณภาพ กำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐาน สภาพรถ รูปแบบการให้บริการ ด้วยการบริหารจัดการที่เป็นระบบที่จะนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้เป็นเครื่องมือทางการบริหาร เช่น การติดตั้งระบบ GPS Tracking เพื่อติดตามการเดินรถ การรองรับ E-Ticket ตั๋วต่อตั๋วร่วม ซึ่งจะเป็นการพัฒนาระบบรถโดยสารสาธารณะที่มีคุณภาพอย่างมืออาชีพ สร้างความเชื่อมั่น ความมั่นใจ ความปลอดภัย จูงใจให้ประชาชนมาใช้ระบบสาธารณะ ลดปัญหาการจราจร  ซึ่งช่วงของการเปลี่ยนผ่าน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในระหว่างการดำเนินการตามแผนปฏิรูปฯ หรือลดผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้องน้อยที่สุด ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ สร้างความรับรู้ ความเข้าใจ นำไปสู่การปฏิรูปที่สมบูรณ์เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและสาธารณะ


นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ตามแผนปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการกำหนดรายละเอียดชื่อเส้นทาง เพื่อสร้างความเข้าใจและการจดจำอย่างเป็นระบบในเชิงพื้นที่  เบื้องต้น จึงได้กำหนดหมายเลขเส้นทางเป็นลักษณะเขตพื้นที่แบ่งเป็น 4 โซน และกำหนดทั้งสัญลักษณ์เชิงสี หมายเลขเส้นทางที่ไม่เกิน 2 หลัก และตัวอักษร ที่จะทำให้เข้าใจง่ายมากขึ้น สังเกตเห็นได้ชัดเจน โดยใช้หลักการเชิงพื้นที่เดิมที่มีจำนวน 8 เขตการเดินรถ แบ่งเป็นโซนดังนี้ เขตการเดินรถที่ 1, 2 กำหนดเป็นโซนพื้นที่สีเขียว (ใช้รถสีเขียว/อักษรตัว G นำหน้าเลขสาย) เขตการเดินรถที่ 3, 4 กำหนดเป็นโซนพื้นที่สีแดง (ใช้รถสีแดง อักษร Rนำหน้าสาย) เขตการเดินรถที่ 5, 6 กำหนดเป็นโซนพื้นที่สีเหลือง (ใช้รถสีเหลือง อักษร Yนำหน้าเลขสาย) และเขตการเดินรถที่ 7, 8 กำหนดเป็นโซนพื้นที่สีน้ำเงิน (ใช้รถสีน้ำเงิน อักษรตัว B นำหน้าสาย) 

โดยเพื่อป้องกันความสับสนสำหรับเส้นทางที่มีต้นทางปลายทางเดียวกันแต่บางช่วงของเส้นทางมีการใช้ทางด่วน จึงได้กำหนดตัวอักษรเพื่อความเข้าใจคือ Expressway โดยมีอักษร ตัว E ต่อท้ายเลขสาย

อย่างไรก็ตามเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน กรมการขนส่งทางบกได้เปิดรับฟังความคิด ข้อเสนอแนะ ข้อแนะนำ ข้อสังเกต ในเรื่องของการจัดระบบหมายเลขเส้นทาง ทางแฟนเพจ Facebook ในชื่อ การปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ กทม. หรือ URL: http://www.facebook.com/BusRerouteBKK/ เพื่อนำข้อเสนอแนะและความคิดเห็นมาวิเคราะห์ ประเมินผล และพิจารณาปรับเปลี่ยนการดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน


โดยตามแผนการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่อง กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดเส้นทางเดินรถ โดยแบ่งเป็นเส้นทางทดลองเดินรถจำนวน 8 เส้นทาง ซึ่งในเบื้องต้นจะแบ่งรถจากเส้นทางเดิม เส้นทางละ 5 คัน เพื่อทดลองเดินรถให้บริการควบคู่กับการให้บริการในเส้นทางเดิม ประกอบด้วย

1.สายที่ G21 รังสิต – ท่าเรือพระราม 5 (เทียบเคียงสาย 114 อ.ต.ก. 3 – แยกลำลูกกา) ,2.สายที่ G59E มีนบุรี – ท่าเรือสี่พระยา (ทางด่วน) (เทียบเคียงสาย 514 มีนบุรี – ถ.รัชดาภิเษก – สีลม) ,3.สายที่ R3 สวนหลวง ร.9 – สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ (เทียบเคียงสาย 11 อู่เมกา บางนา – มาบุญครอง) 

4.สายที่ R41 ถนนตก – แฮปปี้แลนด์ (เทียบเคียงสาย 22 อู่โพธิ์แก้ว – สาธุประดิษฐ์) ,5 สายที่ Y59 สถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน – กระทุ่มแบน (เทียบเคียงสาย 189 สนามหลวง – กระทุ่มแบน)

,6.สายที่ Y61 หมู่บ้านเศรษฐกิจ – สถานีขนส่งจตุจักร (เทียบเคียงสาย 509 สถานีขนส่งจตุจักร – บางแค),7.สายที่ B44 วงกลมพระราม 9 – สุทธิสาร (เทียบเคียงสาย 54 วงกลมรอบเมืองห้วยขวาง) และ 8. สายที่ B45 หมู่บ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม – ท่าเรือสะพานพุทธ (เทียบเคียงสาย 73 อูโพธิ์แก้ว – สะพานพุทธ) 

ทั้งนี้ กำหนดระยะเวลาทดลองเดินรถทั้ง 8 เส้นทาง ระหว่างวันที่ 15 สิงหาคม – 15 กันยายน 2560 ตั้งแต่เวลา 06.30 น. – 18.30 น. โดยให้ ขสมก. กำหนดเวลาการเดินรถให้มีความเหมาะสม และจัดเก็บอัตราค่าโดยสารเป็นอัตราเดียวกับที่ ขสมก. จัดเก็บ และเพื่อให้ประชาชนผู้โดยสารง่ายแก่การจดจำ บริเวณด้านหน้ารถและด้านข้างรถจะมีแถบสีแสดงพื้นที่ให้บริการและเส้นทาง รวมถึงแสดงชื่อเส้นทางใหม่ ควบคู่กับเลขสายและชื่อเส้นทางเดิม พร้อมจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ติดตั้งบริเวณป้ายรถเมล์ บนรถ และผ่านสื่อทุกช่องทาง รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกและ เจ้าหน้าที่ ขสมก. ประจำพื้นที่ให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ

สำหรับเส้นทางนำร่อง ซึ่งเป็นเส้นทางที่กำหนดขึ้นใหม่ตามแผนปฏิรูปฯ จากการสำรวจความต้องการใช้บริการของประชาชน และการเกิดขึ้นใหม่ของชุมชน กรมการขนส่งทางบกได้เปิดรับคำขอ ให้เอกชนประมูลร่วมเดินรถ จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ สายที่ R26E สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์-โรงพยาบาลรามาธิบดี (ทางด่วน) และ สายที่ Y70E มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา-สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต (ทางด่วน) โดยจะเริ่มใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกเชิงคุณภาพ ทั้งการคัดเลือกผู้ประกอบการและรถโดยสารที่ได้มาตรฐานและมีความเหมาะสมต่อไป

อธิบดี กรมการขนส่งทางบก กล่าวด้วยว่า การดำเนินการตามแผนปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้โดยสารและผู้ประกอบการ โดยกรมการขนส่งทางบกยึดหลักการดำเนินการแบบประชารัฐ มีการรับฟังความคิดเห็น และการสร้างการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ด้วยการเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในระหว่างการดำเนินการตามแผนปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 

ทั้งนี้ตามกรอบเวลาของกระทรวงคมนาคม การดำเนินการปฎิรูปเส้นทางรถเมล์ใหม่ ประกอบด้วย การทดลองเส้นทางใหม่ ยกเลิกสัมประทานเดินรถเดิมโดยรัฐบาลออกกฎหมายพิเศษ  เปิดประมูลให้เอกชนร่วมเดินรถในเส้นทางใหม่ ทั้งหมดจะใช้เวลา 2 ปี เมื่อแล้วเสร็จ เอกชน ที่ได้อนุญาตเดินรถ จะได้ใบอนุญาตเดินรถในเส้นทางนั้น เป็นระยะเวลา 7 ปี – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และบริเวณด้านรับลมมรสุมมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ นครพนม จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 […]

หยุดยิง! ชายแดนไทย-กัมพูชา เงียบสนิทตามเดดไลน์ 24.00 น.

29 ก.ค. – ไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงพร้อมกัน 24.00 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีเงื่อนไข ถือเป็นก้าวแรกสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง ส่วนเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการประชุมระหว่างแม่ทัพของทั้งสองประเทศ และการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหม 4 ส.ค. วานนี้ (28 ก.ค.) ที่ประชุมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่มีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นคนกลางในการเจรจา สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมบรรลุข้อตกลง 3 ข้อโดยเฉพาะ “ข้อตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง เช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังของ 2 ประเทศ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของฝ่ายไทย และกองทัพภาคที่ […]

น้ำทะลักท่วม 4 ชุมชนริมน้ำแม่สาย เดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน

เชียงราย 28 ก.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมแม่สายยังวางใจไม่ได้ หลังมวลน้ำจากต้นน้ำแม่สายที่เมียนมา สูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนน้ำสายทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชน 4 ชุมชน ชาวบ้านเดือดร้อนหลายร้อยครัวเรือน บริเวณสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮแขนยาวมาตักเศษไม้เศษสวะที่ขวางทางน้ำ ซึ่งระดับน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มสูงจนเกือบล้นขึ้นมาบนสะพานแล้ว แต่ยังอยู่ต่ำกว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่ทางกรมการทหารช่างสร้างไว้ แต่น้ำไหลเชี่ยวกราก พัดเอาเศษไม้เศษขยะซัดกระแทกสะพานอย่างอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำในลำน้ำสายทรงตัวสูงมาหลายชั่วโมงแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดนแม่สายซ้ำรอยปีที่แล้ว แม้ระดับน้ำและสถานการณ์ยังไม่หนักเท่า แต่ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ทางฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา กำลังถูกน้ำท่วมหนัก จนต้องปิดด่านชายแดนไปก่อน และน้ำที่ผ่านไหลสะพานตอนนี้ ถือว่าเป็นมวลน้ำก่อนใหญ่ก้อนสุดท้ายที่ไหลมาจากต้นน้ำที่หมู่บ้านโจตาดา ประเทศเมียนมา ที่อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ไปกว่า 30 กิโลเมตร หากผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปได้และไม่มีฝนตกหนักทางต้นน้ำน่าจะพอเบาใจได้ นายอำเภอแม่สายบอกว่า ตอนนี้อพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงไปอยู่ตามศูนย์พักพิงและพื้นที่ปลอดภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

น้ำยืนเดือด ระเบิดตก 8 ลูก วัวตาย 1 ตัว

อุบลราชธานี 28 ก.ค. – ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา พื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ข้ามตกข้ามมายังฝั่งไทย ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหาย วัวของชาวบ้านตาย 1 ตัว ช่วงบ่ายที่ผ่านมา จรวด BM 21 จำนวน 8 ลูก ตกยังพื้นที่สวนปาล์ม จากนั้นเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบพบความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด อีกทั้งยังทำให้วัวตาย 1 ตัว ด้านเจ้าของวัวได้ให้ข้อมูลว่า แถวหมู่บ้านไม่เคยพบกระสุนเข้ามาตกในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัว ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น รู้สึกตกใจมาก รีบวิ่งไปดูวัว ซึ่งต่อมาได้ตายระหว่างเคลื่อนย้ายอพยพ อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่าเวลา 15.00 น. ซึ่งมีการเริ่มการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซีย เสียงปืนได้สงบลงประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. ก็เริ่มได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องต่อเนื่องอีกครั้ง ส่วนบรรยากาศในตลาดสดแห่งหนึ่งในพื้นที่ปะทะ ยังมีกลุ่มพ่อค้าจิตอาสาช่วยกันจัดเตรียมอาหาร เพื่อนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ โดยได้ตั้งโรงครัว […]