กรุงเทพฯ 9 ส.ค.- น้องชายอดีต จนท.ที่ดินพังงา ร้องขอความเป็นธรรมและหารือกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หลังศาลชี้พี่ชายเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในห้องคุมขังดีเอสไอ หวั่นจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายชัยณรงค์ อนุกูล เข้าพบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อขอความเป็นธรรม หลังนายธวัชชัย อนุกูล พี่ชาย ซึ่งเป็นอดีตเจ้าพนักงานที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาออกเอกสารสิทธิ ที่ดินทับซ้อนอุทยานแห่งชาติกว่าพันแปลง เสียชีวิตภายในห้องควบคุมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อคืนวันที่ 30 สิงหาคม 2559 อย่างมีเงื่อนงำ
จากนั้นพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 ได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2559 ขอให้ศาลทำการไต่สวนและทำคำสั่งตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 148 และ 150 แสดงว่าผู้ตายเป็นใคร เสียชีวิตด้วยสาเหตุใด และใครป็นผู้ทำ ระหว่างบุคคลนั้นถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหาของดีเอสไอได้ถึงแก่ความตาย ต่อมา ศาลมีคำสั่ง ว่านายธวัชชัย เสียชีวิต โดยมีสาเหตุจากการถูกผู้อื่นกระทำให้เสียชีวิต
นายชัยณรงค์ กล่าวว่า วันนี้มาขอบคุณและปรึกษาหารือเรื่องคดีความว่า ครอบครัวของตนจะสามารถทำอะไรเกี่ยวกับคดีได้บ้าง โดยรู้สึกเป็นห่วงรูปคดีรวมถึงผู้ที่กระทำความผิด และที่ผ่านมาดีเอสไอ และ กระทรวงยุติธรรม ไม่เคยติดต่อสอบถามเรื่องใดใดจากตน พร้อมไม่ให้ข้อมูลใดใดเลย วันนี้ ที่มาพบ ผบช.น มีความหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมเพราะ ผบช.น ได้ออกมาขับเคลื่อนเร่งรัดคดีใน30วัน ยืนยันไม่มีหลักฐานในคดีใหม่ เพราะผลชันสูตรจากนิติเวช บ่งชี้ชัดและศาลมีความเห็นว่ากรณีนี้ ไม่มีใครสามารถทำให้ตัวเองตายได้ เบื้องต้น ผบช.น.แนะนำให้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ทุ่งสองห้อง แต่ทั้งนี้ต้องรอสำนวนจากอัยการส่งกลับมาให้พนักงานสอบสวนก่อน
ด้าน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า รายละเอียดทางคดี ขณะนี้ยังไม่ขอพูดถึง เนื่องจากยังไม่ได้รับสำนวนจากอัยการ และเมื่อได้รับสำนวน ที่ศาลมีคำสั่งว่านายธวัชชัย เสียชีวิต โดยมีสาเหตุจากการถูกผู้อื่นกระทำให้เสียชีวิต มีผู้อื่นทำให้ตาย ในขณะที่นายธวัชชัย อยู่ในการควบคุม เจ้าหน้าที่รัฐมีความผิดทางอาญา ต้องมาสืบสวนหาว่าบุคคลใดที่เป็นกระทำผิด ยืนยันไม่มีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เบื้องต้นทางตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ต้องตรวจสอบรายละเอียดตามขั้นตอนกฎหมาย และในวันนี้เรียกผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และพันตำรวจเอกมานะ เผาะช่วย ผู้กำกับการตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง มาหารือเพื่อให้เรื่องชัดเจนคลี่คลาย
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าไม่หนักใจในการทำคดี ที่ผ่านมาเคยบอกเสมอว่า การทำงานต้องสืบสวนให้สิ้นข้อสงสัย เพื่อให้ความกระจ่างกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและสังคมได้ ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ แม้จะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินคดีตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย