รู้ไว้ไม่หลง! แผนปฏิรูปรถเมล์ ปรับเส้นทาง-เปลี่ยนหมายเลขใหม่ นำร่อง 4 สาย 15 ส.ค.นี้

กรุงเทพฯ 8 ส.ค.-รู้ไว้ไม่หลง! แผนปฏิรูปรถเมล์ แบ่ง 4 โซนบริการ เปลี่ยนตัวอักษร-หมายเลขรถเมล์ใหม่ ปรับเป็น 269 เส้นทาง ขยายบางเส้นทางเพิ่ม ตัดบางเส้นทางสั้นลง เน้นรถเมล์เป็นฟีดเดอร์ ส่งประชาชนป้อนรถไฟฟ้าแทน เริ่มทดลอง 4 สาย วันที่ 15 ส.ค.นี้ เตรียมแถลงข่าวแผนปฏิรูปอย่างละเอียดพรุ่งนี้ (9 ส.ค.)


แผนปฏิรูป ขสมก.ของกรมการขนส่งทางบก เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 ให้กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้ควบคุมการเดินรถประจำทางทั้งหมด โดยให้ ขสมก.ทำการเดินรถอย่างเดียว ภายหลัง ขสมก.ประสบปัญหาภายในหลายอย่าง รวมทั้งเรื่องผลประกอบการขาดทุน ตลอดการดำเนินงานที่ผูกขาดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 รวม 34 ปี


การเดินรถของ ขสมก.ในปัจจุบันมีรถเมล์มีอยู่ 202 เส้นทาง บางเส้นทางทับซ้อนกันเอง ทับเส้นทางรถไฟฟ้า แผนดังกล่าวเตรียมปรับใหม่เป็น 269 เส้นทาง ระยะทางเพิ่มขึ้นจาก 6,437 กม. เป็น 7,833 กม. หรือราว 20% ขยายบางเส้นทางเพิ่มขึ้น ตัดบางเส้นทางให้สั้นลง เน้นให้รถเมล์เป็นฟีดเดอร์ หรือระบบขนส่งประชาชนป้อนรถไฟฟ้าแทน 

เขตการเดินรถจากเดิมที่มี 8 เขต จะปรับใหม่เป็น 4 โซนบริการ เพื่อแก้ปัญหาจราจร และสะดวกในการบริหารจัดการไม่ให้วิ่งข้ามโซน หรือทับเส้นกันเอง แบ่งตามสีของเส้นทาง เป็นที่มาของแนวคิดเปลี่ยนตัวอักษรและหมายเลขรถเมล์ใหม่


โซนแรก สายสีเขียว GREEN อักษรย่อตัว “G” เส้นทางเดินรถ จะอยู่ในย่านรังสิต บางเขน และมีนบุรี

โซนที่ 2 สายสีแดง RED อักษรย่อตัว “R” เส้นทางเดินรถได้แก่ ย่านปากน้ำ คลองเตย สาธุประดิษฐ์

โซนที่ 3 สายสีเหลือง YELLOW  อักษรย่อ “Y” เส้นทางเดินรถอยู่ในย่านพระประแดง พระราม 2 บางแค และศาลายา จ.นครปฐม

โซนที่ 4 สายสีน้ำเงิน BLUE ใช้อักษรย่อ “B” เส้นทางเดินรถได้แก่ ย่านปากเกร็ด จ.นนทบุรี หมอชิต 2 ดินแดง และสวนสยาม

หมายเลขรถเมล์แบบใหม่นี้ เตรียมทดลองจำนวน 4 สาย วันที่ 15 สิงหาคมนี้ เพื่อศึกษาผลกระทบ 1 เดือน สำหรับ 4 เส้นทางทดลอง ประกอบด้วย สาย 189 เดิม จากสนามหลวงถึงกระทุ่มแบน ป้องกันพี่น้องประชาชนสับสน ขสมก. จะติดป้ายบอกทั้งเลขเก่าและเลขใหม่ เลขใหม่เปลี่ยนเป็น Y59 และขยายเส้นทางไปเริ่มที่รถไฟชุมทางตลิ่งชัน ปลายสายเดิมที่กระทุ่มแบน ระยะทางราว 34 กม.

สาย 144  เดิม วิ่งจากแยกลำลูกกาสิ้นสุดวัดนครอินทร์ นนทบุรี จะเปลี่ยนเป็นสาย G21 ขยายเส้นทางจากรังสิตไปสิ้นสุดที่ท่าเรือพระราม 5 ระยะทางยาว 32 กม.

สาย 11 เดิม ห้างเมกะบางนาถึงห้างมาบุญครอง ปรับเป็นสาย R3 ขยายไปเริ่มที่สวนหลวง ร.9 สิ้นสุดทางที่ BTS สนามกีฬาแห่งชาติ ระยะทางราว 22 กม.

และสาย 54 วงกลมรอบเมืองห้วยขวาง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเดิม เปลี่ยนเป็นสาย B44 วงกลมพระราม 9 บริเวณแยกผังเมือง วิ่งผ่านสุทธิสาร อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วนกลับทางราชปรารภ ระยะทางราว 20 กม.

ทั้ง 4 สาย ขสมก.จะทดลองวิ่งเส้นทางละ 5 คัน/วัน ค่าตั๋วเท่าเดิม ส่วนอีก 4 สาย จะทดลองเป็นลำดับต่อไปช่วงเดือนกันยายน ได้แก่ สาย 514 (รถปรับอากาศ) จากมีนบุรี ขึ้นทางด่วนสิ้นสุดสายที่สีลม ปรับเป็น G59E  เส้นทางจะขยายไปสิ้นสุดที่ท่าเรือสี่พระยา คุณผู้ชมสังเกตอักษรตัว “E” ที่ต่อท้าย นั่นคือ ย่อมาจากคำว่า “expressway” เป็น รถเมล์ที่วิ่งขึ้นทางด่วนนั่นเอง

ส่วน สาย 509 ปรับอากาศ เดิมเริ่มที่อู่วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถึงหมอชิต 2 ปรับเป็น สาย Y61 และขยายเส้นทางไปเริ่มจากหมู่บ้านเศรษฐกิจสิ้นสุดที่หมอชิต 2 เหมือนเดิม

สาย 73 อู่โพธิ์แก้วถึงสะพานพุทธ ปรับเป็น สาย B45 เส้นทางจากหมู่บ้านเอื้ออาทรบึงกุ่ม ปลายทางท่าเรือสะพานพุทธ และสาย 22 เดิมวิ่งจากพระราม 3 ไปอู่โพธิ์แก้ว ปรับเป็นสาย  R41 เริ่มเส้นทางที่ถนนตก สิ้นสุดที่แฮปปี้แลนด์ โดยหมายเลขของรถเมล์แต่ละสายแบบเก่า จะถูกจัดเรียงใหม่ มีอักษรย่อของแต่ละโซนนำหน้า แต่ละโซนมีกี่เส้นทางก็จะเรียงหมายเลขตั้งแต่ 1 เป็นต้นไป ไม่ได้อ้างอิงจากเลขเดิม

ขณะเดียวกัน กรมการขนส่งทางบกมีแผนเปิดเส้นทางใหม่ที่ยังไม่เคยเปิดบริการ 10 เส้นทาง ขณะนี้เปิดให้ผู้สนใจยื่นขอเข้ารับคัดเลือกแล้ว เบื้องต้น 2 เส้นทาง ซึ่งจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ได้แก่ สาย R26E เส้นทางสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ขึ้นทางด่วนปลายทางโรงพยาบาลรามาธิบดี และสาย Y70E มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา ขึ้นทางด่วน ปลายทางที่ BTS หมอชิต ซึ่งวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.) กรมการขนส่งทางบก-ขสมก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแถลงข่าวแผนปฏิรูปดังกล่าวอย่างละเอียด

อย่างไรก็ตาม นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หากการทดลองเดินรถเส้นทางใหม่ไม่มีปัญหา ประชาชนยอมรับได้ ก็จะเสนอให้ คสช.ใช้อำนาจมาตรา 44 ดำเนินการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ 269 เส้น ยกเลิกสัญญาสัมปทานรถร่วมบริการที่มีอยู่ 111 สัญญา ก่อนเปิดประมูลใหม่ และให้ใบอนุญาตเดินรถชั่วคราวระยะเวลา 2 ปี ในห้วงเวลาถ่ายโอนภาระงานจาก ขสมก.ไปยังกรมการขนส่งทางบก ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเสนอ คสช.ได้หลังเห็นผลประเมินการทดลองรถเมล์รูปแบบใหม่ภายในเดือนกันยายนนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]