สำนักงาน กกต. 27 ต.ค.- กกต.เตรียมแก้ระเบียบฯ ให้”องค์การเอกชน-ศส.ปชต.ร่วมตรวจสอบเลือกตั้งทุกระดับ ตั้งเป้าทุกจังหวัดมีองค์การเอกชนร่วมตรวจสอบ
เมื่อเวลา 10.00 น. นายประวิช รัตนเพียร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม เป็นประธานการประชุมเพื่อหารือและรับทราบความคืบหน้าการปรับปรุงแก้ไขระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เกี่ยวกับองค์การเอกชน และร่างระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล พ.ศ. …
นายประวิช กล่าวว่า สำนักงาน กกต.ได้ศึกษาผลการวิจัยขององค์การเอกชนในการช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กกต. ที่ผ่านมา พบว่ามีปัญหาและอุปสรรคในการทำงานบางประการ ซึ่งบางส่วนเกิดจากระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีความยุ่งยากซับซ้อนไม่เอื้อต่อการปฏิบัติงาน ทำให้องค์การเอกชนที่มีอยู่ประสบปัญหาในทางปฏิบัติ อีกทั้งอาจมีจำนวนลดน้อยลง จึงได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เอื้อต่อการปฏิบัติงานขององค์การเอกชน โดยมุ่งหวังให้เครือข่ายองค์การเอกชนเข้ามาเป็นกลไกช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กกต.ในภารกิจการช่วยเหลือตรวจสอบการเลือกตั้งเมื่อมีการเลือกตั้งทุกระดับ
นายประวิช ให้สัมภาษณ์ว่า หลักดำเนินการของ กกต.ตั้งแต่ก่อตั้งมา 18 ปี คือ กระบวนการจัดการเลือกตั้ง ต้องร่วมมือกับผู้คนในการจัดการเลือกตั้งเกือบ 100,000 หน่วย มีคนที่เกี่ยวข้องกว่า 1 ล้านคน ส่วนอีกหลักที่เป็นหัวใจสำคัญของ กกต. คือความสุจริตและเที่ยงธรรม เป็นสิ่งที่ต้องมีคนมาช่วยตรวจสอบว่าสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ จึงต้องมีองค์การเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งในการให้ความรู้เรื่องการเลือกตั้ง การส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมทางการเมือง และการช่วยตรวจสอบ ปัจจุบันองค์การเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมลดน้อยลงเหลือเพียง 25 เปอร์เซ็นต์ จึงจัดการประชุมทบทวนในการประเมินปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อปรับระเบียบและเตรียมการก่อนมีการเลือกตั้งในครั้งต่อไป เมื่อร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต. ประกาศใช้ จะได้มีการปรับระเบียบเป็นครั้งสุดท้ายที่ต้องทำความเข้าใจกับองค์การต่างๆ ต่อไป
“การทำงานร่วมกับองค์การต่าง ๆ บทบาทควรจะอยู่แค่ไหน แค่การรายงานผล หรือควรจะบอกได้ด้วยว่าเป็นอย่างไร จะเชื่อมโยงการทำงานกันอย่างไรกับแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่เรามี เช่น แอพพลิเคชั่นตาสัปปะรด ซึ่งผมเห็นว่าทุกจังหวัดต้องมีองค์การเอกชนอย่างน้อย 1 แห่ง และจะทำอย่างไรให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมลงไปทุกหน่วยเลือกตั้งให้มากที่สุด” นายประวิช กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับความร่วมมือระหว่างสำนักงาน กกต.กับกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบล(ศส.ปชต.) ทุกตำบล จำนวน 7,428 ศูนย์ ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความเป็นพลเมืองสอดแทรกความรู้ ผ่านกิจกรรมในวิถีชีวิตประจำวัน และพัฒนาขยายเครือข่ายพลเมืองที่มีคุณภาพ โดยมีกรรมการ ศส.ปชต. จำนวน 74,280 คน ซึ่งบุคลากรเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาให้เป็นผู้จัดการหน่วยเลือกตั้งมืออาชีพที่มีคุณภาพ หน่วยละ 1 คน ใน 96,000 หน่วย รวมกว่า 104,000 คน ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ จึงได้จัดทำร่างระเบียบดังกล่าวขึ้น เพื่อให้การขับเคลื่อนกิจกรรมของ ศส.ปชต. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม กกต. ได้กำหนดโรดแม็ปการขับเคลื่อนกิจกรรมการให้ความรู้และการศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับการเป็นพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตย และการดำรงรักษาเครือข่ายสำคัญๆ ของ กกต. เช่น รด.จิตอาสา ลูกเสืออาสา กกต. ดีเจประชาธิปไตย และเครือข่ายนักศึกษาระดับอุดมศึกษาไว้ต่อไป โดย ศส.ปชต. จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองของพลเมือง รวมไปถึงเรื่องการเสริมสร้างเครือข่ายทำหน้าที่ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กกต. ให้เกิดความยั่งยืนและต่อเนื่อง เพื่อจะได้มีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในคราวต่อไป ซึ่งองค์การเอกชนและ ศส.ปชต. นับเป็นเครือข่ายที่มีความสำคัญในการช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กกต.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย