fbpx

วันแรกคึกคักนายจ้างนำต่างด้าวพิสูจน์ความเป็นนายจ้างลูกจ้าง

ะทรวงแรงงาน 8 ส.ค. นายจ้างนำต่างด้าวพิสูจน์ความเป็นนายจ้างลูกจ้าง ที่กระทรวงแรงงานวันแรกคึกคัก ก.แรงงาน ย้ำหากพบแอบอ้างผลักดันต่างด้าวออกนอกประเทศทันที ส่วนคนไทยดำเนินคดีทางอาญา



บรรยากาศที่บริเวณชั้น 1 กระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็น 1 ในกว่า 80 หน่วยทั้วประเทศที่เปิดให้บริการพิสูจน์ความเป็นนายจ้างลูกจ้างของแรงงานต่างด้าว ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่เริ่มเปิดให้บริการคิวแรกตั้งแต่ 07.30 น.มีนายจ้างนำต่างด้าวเข้ามาพิสูจน์ความสัมพันธ์เป็นจำนวนมาก นายจ้าง 1 คน จะมีต่างด้าวมาด้วยประมาณ  2-10 คน ซึ่งนายอนุรักษ์ ทศรัตน์ รองปลัดกระทรวงแรงงานได้ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยของการให้บริการด้วย โดยกล่าวว่า แต่ละศูนย์ จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 6 ก.ย.นายจ้างวันละ 500 คน แบ่งเป็น 2 รอบละ 250 คน คือเวลา 08.30 – 12.30 น. และรอบบ่ายตั้งแต่เวลา 12.30 – 16.30 น.หรือจนกว่าจะสิ้นสุดคิวสุดท้าย


การพิสูจน์ความสัมพันธ์ จะเป็นการสัมภาษณ์โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ที่มีแบบคำถามเช็คลิสที่ผ่านพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญว่าสามารถพิสูจน์ความสัมพันธ์ได้จริงและน่าเชื่อ สำหรับกลุ่มคนธรรมดา นายจ้างต้องมาเองพร้อมกับลูกจ้าง  แต่สำหรับกรณีนิติบุคคล สามารถทำหนังสือมอบอำนาจ ที่มีลูกจ้างจำนวนมาก แนะนำควรเตรียมเอกสารอื่นๆมาด้วย เช่น สลิปเงินเดือน สัญญาจ้าง บัตรพนักงานของต่างด้าว เป็นต้น เพื่อยืนยันว่าต่างด้าวที่นำมาเป็นลูกจ้างทำงานกับตนจริงตามที่ยื่นขอหรือไม่ เป็นแรงงานเด็กอายุตำ่กว่า 18 ปี และทำงานในกิจการที่ห้ามทำหรือไหม จากนั้นเมื่อผ่านการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่จะออกหนังสือหนังรับการจ้างที่มีรูปแรงงานต่างด้าวติดอยู่ให้กับต่าวด้าว เพื่อดำเนินการสู่ขั้นตอนการพิสูจน์สัญชาติขอใบอนุญาตทำงานต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับนายจ้างคนไหนไม่สะดวกมาตามที่ใบนัดระบุสามารถเลื่อนวันมาสัมภาษณ์ได้โดยต้องแจ้งเลื่อนกับเจ้าหน้าที่  และหากพบแอบอ้างการเป็นนายจ้างลูกจ้าง สำหรับคนไทยจะถูกดำเนินคดีทางอาญาในข้อหาในความเท็จ และส่วนคนต่างด้าวจะผลักดันออกนอกประเทศทันที  ขณะที่ นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ โฆษกกระทรวงแรงงาน เผยผลดำเนินการของศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว 100 ศูนย์ ตั้งแต่เปิดให้บริการ 24 ก.ค.-7 ส.ค. 60 มีนายจ้างมายื่นขอจ้างต่างด้าว  216,409 คน เป็นต่างด้าว 770,882 คน เมียนมา 447,134 คน กัมพูชา 226,826 คน ลาว 96,922 คน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เรือสินค้าชนสะพานพังในสหรัฐ

บัลติมอร์ 26 มี.ค.- สื่อในสหรัฐรายงานว่า เกิดเหตุเรือสินค้าชนสะพานสำคัญในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ทำให้สะพานพังลงไปในแม่น้ำ เว็บไซต์บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์รายงานว่า มีผู้โพสต์คลิปผ่านเอ็กซ์ (X) ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่เรือลำใหญ่ชนกับคานรองรับของสะพานฟรานซิส สกอตต์ คีย์ (Francis Scott Key Bridge) เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นจากเรือ จากนั้นสะพานได้ทยอยพังลงไปในแม่น้ำ ขณะที่สำนักงานเครื่องกลเบย์แอเรียถ่ายทอดสดทางยูทูบเมื่อเวลา 01:28 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เห็นเรือลำใหญ่ชนสะพานดังกล่าว จากนั้นเมื่อเวลา 03:00 น.เห็นโครงสร้างสะพานแตกเป็นส่วน ๆ และจมอยู่ในแม่น้ำ บิสซิเนสส์ อินไซเดอร์ได้ตรวจสอบแผนที่การเดินเรือในเว็บไซต์เวสเซิล ไฟน์เดอร์ (VesselFinder) พบว่า เมื่อเวลา 02:50 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เรือดาลี (Dali) ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าติดธงชาติสิงคโปร์ ยังคงจอดนิ่งอยู่ใต้สะพาน สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานเมื่อเดือนมีนาคม 2520 มีความยาวทั้งหมด 2,632.3 เมตร.-814.-สำนักข่าวไทย

ศาลยกฟ้อง “ชวน หลีกภัย” หมิ่นประมาท “ทักษิณ”

“ชวน” อดีตนายกรัฐมนตรี เผยศาลยกฟ้องคดี “ทักษิณ” ฟ้องหมิ่นประมาท ชี้มีสิทธิ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่ได้ประสบมาเพราะเป็นนักการเมืองและเป็นอดีตนายกรัฐมนต

“ทนายตั้ม” แฉเส้นทางเงินเว็บพนันโยง “ส่วยตัวท็อป” น็อก “บิ๊ก ตร.”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะเปิดหลักฐานแฉขบวนการส่วยตัวท็อปแบบม้วนเดียวจบ โยงบิ๊กตำรวจรับเงินเว็บพนัน

ข่าวแนะนำ

“ทนายตั้ม” มอบหลักฐานแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยง “บิ๊ก ตร.” ให้ “บิ๊กเต่า”

“ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด นำหลักฐานมอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังออกมาแฉเส้นทางการเงินเว็บพนันโยงถึงบิ๊กตำรวจ

“จักรภพ เพ็ญแข” ถึงกองปราบฯ รายงานตัวตามหมายจับ

“จักรภพ เพ็ญแข” ถึงกองปราบฯ รายงานตัวตามหมายจับคดีครอบครองอาวุธปืน -อั้งยี่ เมื่อปี 2560 ด้านทนายความเตรียมหลักทรัพย์ 2-3 แสนบาทต่อคดี ไว้ยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวน

พบร่างเหยื่อสะพานถล่มแล้ว 2 ราย

ทีมนักประดาน้ำสหรัฐ พบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุสะพานพังถล่มในเมืองบัลติมอร์ แล้ว 2 ราย เป็นคนงานชาวเม็กซิโกและชาวกัวเตมาลา

นายกฯ ย้ำเงินดิจิทัลช่วยฟื้นเศรษฐกิจ-ได้ข้อสรุป 10 เม.ย.

นายกรัฐมนตรี ย้ำโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ได้ข้อสรุป 10 เม.ย.นี้