อาเซียน-จีน เห็นชอบการจัดทำแนวทางปฏิบัติในทะเลจีนใต้

กรุงมะนิลา 6 ส.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีนเห็นชอบแนวทางประมวลการจัดทำการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ ขณะที่อาเซียน-อียูเตรียมแถลงการณ์ร่วมเดินหน้าทำงาน เชื่อการรวมตัวระดับภูมิภาคจะรับมือความท้าทายระดับโลกได้


การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน วันที่ 2 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์วันนี้ (6 ส.ค.) อาเซียนมีกรอบการประชุมร่วมกับประเทศคู่เจรจาหลายประเทศ ซึ่งเวทีที่ได้รับความสนใจมากคือการประชุมอาเซียน-จีน โดยนายดอน ปรมัติถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบแนวทางประมวลการจัดทำการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-จีนได้ยกร่างเสร็จแล้ว และจะประกาศอย่างเป็นทางการในการประชุมระดับผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเริ่มต้นเจรจาต่อไป

ด้านน.ส.บุษฎี สันติพิทักษณ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ  เปิดเผยผลการประชุมอาเซียน-อียู ซึ่งนายดอน ปรมัติถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-อียูตั้งแต่ปี 2015-2018 ขณะที่อาเซียน-อียูมีความสัมพันธ์ครบ 40 ปีแล้ว สิ่งที่ไทยดำเนินการเมื่อปีที่แล้ว โดยจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-อียูและออกเอกสาร Bangkok Roadmap เกี่ยวกับทิศทางความสัมพันธ์ซึ่งมีหลายมิติ ทั้งการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม 


“อาเซียนและอียู ตระหนักร่วมกันว่าการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันผ่านถ้อยแถลงร่วมในวันนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญฉลองความสัมพันธ์ครบ 40 ปี ขณะเดียวกันยังครบรอบการจัดตั้งสหภาพยุโรปครบ 60 ปี และอาเซียนครบ 50 ปี ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นว่าช่วงระยะ 4 ทศวรรษที่ผ่านมา การรวมตัวกันในภูมิภาคมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในยุโรปและมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว 

น.ส.บุษฎี กล่าวว่า หลักการการรวมตัวขององค์กรในระดับภูมิภาคจะรับมือความท้าทายระดับโลกได้อย่างดี โดยอาเซียนและอียูจะร่วมกันบูรณาการองค์กรในระดับภูมิภาคในลักษณะหุ้นส่วนต่อกัน ทั้งนี้ พลวัตความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-อียู มีความสำคัญ เนื่องจากทั้งสองภูมิภาคมีประชากรรวมกันร้อยละ 18 ของประชากรโลก และจีดีพีร้อยละ 26 ของโลก

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยึดมั่นที่จะดำเนินความสัมพันธ์บนพื้นฐานบทบาทสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศและสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือและมิตรภาพเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอียูเข้าร่วมภาคีปี 2012 นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยึดมั่นในพันธกรณีที่จะช่วยกันบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาติ ที่จะช่วยส่งเสริมปกป้องสิทธิมนุษยชน เคารพเรื่องของนิติรัฐ การส่งเสริมสถานภาพสตรี 


“อาเซียน-อียูจะเดินหน้าทำงานร่วมกันในความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน เพิ่มพูนการค้า การลงทุนระหว่างกัน พัฒนาด้านพลังงาน พัฒนาอุตสาหกรรมด้านการบิน การเมือง ความมั่นคง ความร่วมมือระดับประชาชนกับประชาชน การแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา การรับรองแผนปฏิบัติการร่วมอาเซียน-อียู ปี 2018-2022 ซึ่งมีโครงการหลากหลายที่จะแลกเปลี่ยนระหว่างกัน ความร่วมมือในการรับมือกับภัยความมั่นคงในรูปแบบใหม่ ความมั่นคงทางไซเบอร์ การป้องกันปัญหาการก่อการร้าย” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย