บ้านพระอาทิตย์ 4 ส.ค.-อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศ จุดยืนเดินหน้ายื่นอุทธรณ์คดีสลายการชุมนุม ปี51 เตรียมยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. วันที่ 7 ส.ค.นี้
อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) นัดประชุมหารือถึงแนวทางการยื่นอุทธรณ์ในคดีสลายการชุมนุมปี 2551 โดย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกกลุ่ม พธม. ระบุว่า กลุ่มพันธมิตรฯเคารพการตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ยังมองว่ามีการคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริงหลายประการ จึงมีความเห็นว่าคดีนี้ต้องยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกา เพราะเห็นว่าคำพิพากษาของศาลฏีกาฯ ขัดแย้งกับกับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ขัดต่อมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ มติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
ที่เคยมีความเห็น ว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นไปด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และการสลายการชุมนุมไม่เป็นไปตามหลักสากล ดังนั้นจึงมีมติร่วมกันให้ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการยื่นอุทธรณ์คดี โดยมอบหมายให้ นายประพันธ์ คูณมี นายวีระ สมความคิด นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นคณะทำงาน และในวันจันทร์ ที่ 7 สิงหาคมนี้ เวลา 11.00 น. นายวีระ พร้อมด้วยผู้เสียหาย จะเดินทางไปยื่นหนังสือ ต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ ยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกาฯ ต่อไป
ส่วนสาเหตุที่ยื่นอุทธรณ์ นั้น นายปานเทพ กล่าวว่า เพราะเห็นว่าการสืบพยานในชั้นศาล มีเพียง 15 ปาก ซึ่งอาจทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ดังนั้นทางกลุ่มพันธมิตรฯจะรวบรวมเอกสาร ภาพถ่ายการชุมนุม คำพิพากษาของศาลเกี่ยวกับคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งหมดไปยื่นต่อเพื่อประกอบการพิจารณา
“หากการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะดำเนินการตามกฎหมายทุกช่องทางและทุกวิถีทางเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้แก่ประชาชนจนถึงที่สุด” นายปานเทพ กล่าว
ด้านนายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์แม้จะมีน้องชายเป็นจำเลยในคดีนี้ก็ไม่เกี่ยวกับคำพิพากษา ว่า การออกมาปรามของ พล.อ.ประวิตรนั้น เป็นเรื่องปกติ แต่กลุ่มพันธมิตรนั้นต้องมีจุดยืน ต้องต่อสู้คดี พันธมิตร ยังมีเอกภาพและยังต้องต่อสู้คดีความร่วมกันอีกหลายคดีและรับผิดชอบต่อประชาชนที่สู้กันมา
ขณะที่นายสุริยะใส กล่าวว่า ไม่กังวลแม้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดปัจจุบันจะไม่ใช่ชุดที่เคยพิจารณาสำนวนคดี ต้องรอให้ ป.ป.ช.ได้รับคำพิพากษาฉบับเต็มก่อน และยังมีเวลาที่ ป.ป.ช.จะพิจารณายื่นอุทธรณ์ และขอบอกกลุ่มพันธมิตรฯว่า ประตูยังไม่ปิด อย่ายุติการเรียกร้องความเป็นธรรม .-สำนักข่าวไทย