รมว.ต่างประเทศออสเตรเลียเยือนไทย เข้าพบนายกฯ 4 ส.ค.

กระทรวงการต่างประเทศ 3 ส.ค.-รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย เยือนไทยอย่างเป็นทางการ  เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีที่มีความใกล้ชิดครบรอบ 65 ปี เตรียมเข้าพบหารือนายกรัฐมนตรีพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในโอกาสครบรอบการก่อตั้งอาเซียนครบ 50 ปี


นางจูลี บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 2-5 สิงหาคม สำหรับ การเยือนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับออสเตรเลียที่มีความใกล้ชิดครบรอบ 65 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน พร้อมกับเป็นประธานในพิธีเปิดที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยแห่งใหม่ รวมทั้งสถานกงสุลใหญ่ออสเตรเลียประจำจังหวัดภูเก็ต และจะร่วมลงนามความตกลงว่าด้วยการบริการเดินอากาศระหว่างไทยกับเครือรัฐออสเตรเลียฉบับล่าสุดกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ในโอกาสนี้นางบิชอป ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในโอกาสครบรอบการก่อตั้งอาเซียนครบ 50 ปีที่กระทรวงการต่างประเทศด้วยว่า ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการขอชื่นชมบทบาทของประเทศไทยในฐานะประเทศผู้ก่อตั้งประชาคมอาเซียนเมื่อ  50 ปีก่อน  โดยมีการลงนามในปฎิญญากรุงเทพเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1967


นางจูลี บิชอป  กล่าวว่า การเยือนครั้งนี้ ตนได้เดินทางไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และได้หารือทวิภาคีกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ การหารือเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลและครอบคลุมหลายมิติ  ถึงความสัมพันธ์และความร่วมมือในอดีตระหว่างออสเตรเลียและอาเซียน ซึ่งออสเตรเลียได้เข้าเป็นประเทศคู่เจรจาประเทศแรกของอาเซียน และยังเน้นย้ำถึงบทบาทความสำคัญในอาเซียนที่มี GDP รวมกันเป็นอันดับที่ 3 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และเป็นอันดับที่ 5 ของโลก

นอกจากนี้นางบิชอปยังได้แสดงความกังวลถึงความตึงเครียดในทะเลจีนใต้และการใช้อาวุธนิวเคลียร์อย่างผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือที่ยังคงเป็นปัญหาที่ท้าทายภูมิภาคและกฎเกณฑ์ของโลกอย่างมาก โดยนางบิชอป ยังได้กล่าวว่าการใช้อาวุธนิวเคลียร์เป็นภัยคุกคามที่ประเทศใดประเทศหนึ่งไม่สามารถแก้ไขได้เพียงลำพัง และทุกประเทศต้องร่วมมือกันโน้มน้าวเกาหลีเหนือให้หยุดโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

และวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) นางบิชอป จะเข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งพบหารือข้อราชการกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยประเด็นสำคัญที่จะมีการหารือได้แก่ การกระชับและส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง การค้าและการลงทุน ความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ความร่วมมือด้านการศึกษา และความร่วมมือในกรอบพหุภาคี โดยเฉพาะการส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าในภูมิภาค .-สำนักข่าวไทย    


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

ทลายเครือข่ายเบิกงบซ่อมรถทิพย์ ทุจริตงบ กทม.

คดีการจับกุม 7 เจ้าหน้าที่กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ที่ร่วมกันทุจริตปลอมใบเสนอราคาเบิกเงินซ่อมรถบัส ในชั้นสอบสวนได้ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัวไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม หลังตำรวจออกมาเผยว่ามีความเกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่ถูกตรวจสอบไปก่อนหน้านี้

กระบะตัดหน้ารถไฟ ชนสนั่น ตาย 4 เจ็บ 6

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับไร้อาการบาดเจ็บ อ้างไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก

ผลตรวจดีเอ็นเอ “ผกก.โจ้” ออกแล้ว ส่งให้ สน.ประชาชื่น

ออกแล้ว ผลตรวจผ้าขนหนู คดี “ผกก.โจ้” ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น เตรียมส่งผลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ

นายกฯ อารมณ์ดีฮัมเพลง บอก “ผู้ชายคนนั้น” แฟร์ดี

นายกฯ อารมณ์ดีฮัมเพลง บอก “ผู้ชายคนนั้น” แฟร์ดี หลังฝ่ายค้านถอนชื่อ “ทักษิณ” จากญัตติซักฟอก โยนถามผู้รู้เหมาะหรือไม่หากใช้คำว่า “พ่อ” แทน ยันฝ่ายค้านขอ 30 ชม. ก็พร้อม