ก.คลัง 28 ต.ค. – นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2559 คาดว่าขยายตัวร้อยละ 3.3 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 2.8 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐขยายตัวต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก การเร่งรัดการเบิกจ่ายของรัฐบาลจากโครงการบริหารจัดการน้ำและระบบขนส่งทางถนน และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง แม้ว่าต้องปรับลดจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีจาก 33.8 ล้านคน เหลือ 33.3 ล้านคน แต่ยังสนับสนุนให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวขยายตัวดีตามไปด้วย
ด้านการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้และการจ้างงานภาคบริการที่ขยายตัวดี ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวจากปีก่อนเช่นกัน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าของไทยยังคงหดตัว คาดการส่งออกและบริการขยายตัวร้อยละ 3.2 ส่วนการส่งออกหดตัวร้อยละ 0.5 ขณะที่ 2560 จะขยายตัวร้อยละ 1.8 สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2559 จะอยู่ที่ร้อยละ 0.4 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ แต่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในระดับต่ำตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2560 สศค.คาดว่าเศรษฐกิจไทยแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 3.4 ได้รับแรงส่งของการใช้จ่ายภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 อาทิ โครงการรถไฟทางคู่และรถไฟฟ้าในเขตเมือง เงินลงทุนทั้งรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ออกสู่ระบบประมาณ 1.02 ล้านล้านบาท เมื่อภาครัฐลงทุนต่อเนื่องจะทำให้ภาคเอกชนเกิดความเชื่อมั่นลงทุนเพิ่มตามไปด้วย
ประกอบกับแนวโน้มรายได้เกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้นตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกคาดว่าจะเป็นแรงสนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัว ขณะที่เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าเริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น และค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องประมาณ 35.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2560 จะอยู่ที่ร้อยละ 2.1.-สำนักข่าวไทย