กรุงเทพฯ 28 ก.ค. – กรมชลประทานเตรียมแผนรับมือน้ำในแม่น้ำยมจังหวัดสุโขทัย หลังพบว่าระดับน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น หวังลดผลกระทบพื้นที่เศรษฐกิจเมืองสุโขทัย
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนเซินกาในพื้นที่ตอนบนของจังหวัดสุโขทัย ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำยมจำนวนมาก กรมชลประทานได้กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการน้ำก่อนที่น้ำก้อนใหญ่จะไหลผ่านลงสู่เมืองสุโขทัย กรณีที่ 1 หากปริมาณน้ำที่สถานี Y.14 อ.ศรีสัชนาลัย อยู่ในเกณฑ์ 800 – 850 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะบริหารจัดการน้ำโดยผันน้ำเข้าฝั่งซ้ายผ่านคลองหกบาท 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(รับได้สูงสุด 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) เพื่อป้องกันผลกระทบต่อพื้นที่บางระกำโมเดล 60 ส่วนฝั่งขวาจะมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำบางแห่ง พร้อมกันนี้จะควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ในเกณฑ์ไม่เกิน 650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเมื่อน้ำไหลผ่านไปทางด้านท้ายปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์แล้ว จะมีคลองธรรมชาติช่วยตัดยอดน้ำก่อนจะไหลผ่านลงสู่เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยได้อีกประมาณ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัย ในอัตราไม่เกิน 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะไม่กระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัย
กรณีที่ 2 หากปริมาณน้ำที่สถานี Y.14 อ.ศรีสัชนาลัย มากกว่า 850 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำบางส่วน ซึ่งจะบริหารจัดการน้ำ ด้วยการผันน้ำเข้าฝั่งซ้ายผ่านคลองหกบาท 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับได้สูงสุด 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) เพื่อป้องกันผลกระทบต่อพื้นที่บางระกำโมเดล 60 ส่วนฝั่งขวาท้ายคลองน้ำโจนจะมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำบางแห่ง ซึ่งอาจจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้นเพื่อตัดยอดน้ำ พร้อมกันนี้จะควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ในเกณฑ์ไม่เกิน 650 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อน้ำไหลผ่านไปทางด้านท้ายปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์แล้ว จะมีคลองธรรมชาติช่วยตัดยอดน้ำก่อนจะไหลผ่านลงสู่เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยได้อีกประมาณ 110 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรืออาจจะต้องเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนเมืองสุโขทัย ทำให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนได้
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำยมจังหวัดสุโขทัย พบว่าปริมาณน้ำสูงสุดไหลผ่านสถานี Y.14 อ.ศรีสัชชนาลัย ไปแล้วเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมาที่อัตรา 844 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ดังนั้น การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยม จึงอยู่ในกรณีที่ 1 ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เขตเศรษฐกิจหรือพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัย
สำหรับคลองธรรมชาติต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มที่จะต้องรับน้ำเกินศักยภาพจากกรณีที่ 2 ได้แก่ คลองน้ำโจน ที่ตั้งอยู่บริเวณฝั่งขวาเหนือปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์ ที่มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ หากผันเข้าไปจะเป็นการเพิ่มระดับน้ำที่ท่วมอยู่เดิม โดยที่ผ่านมาได้มีการระบายลงด้านท้ายลงสู่ทุ่งทะเลหลวงมาโดยตลอด , ส่วนคลองตาไร่และคลองตาปลื้ม เนื่องจากสภาพคลองด้านท้ายค่อนข้างแคบ ปริมาณน้ำอาจจะล้นคันคลองและขาดชำรุดได้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพื้นที่นาข้าวอายุประมาณ 2 เดือน ทั้งนี้ หากมีการเพิ่มปริมาณการรับน้ำเข้าคลองต่างๆมากกว่าแผนที่วางไว้ จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรทุกคลอง รวมไปถึงคลองต้นข้อและคลองปากแคว จะมีที่อยู่อาศัยบางส่วนได้รับผลกระทบตามไปด้วย โดยเฉพาะคลองต้นข้อ เป็นคลองขนาดใหญ่ปลายคลองจะไปเชื่อมกับระบบคลองของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่บางระกำโมเดลด้วย
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น กรมชลประทานได้เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำ 26 เครื่อง เพื่อช่วยพื้นที่ที่มีคันโอบล้อมและสามารถสูบน้ำช่วยเหลือให้คลี่คลายได้ภายใน 2-3 วัน พร้อมกับเตรียมพร้อมรถขุดตักไฮดรอลิคอีก 2 คัน เสริมกระสอบทรายคันคลอง โดยเฉพาะคลองต้นข้อที่ได้จัดเตรียมความพร้อมไว้แล้ว นอกจากนี้ ยังเร่งระบายน้ำยมสายหลักลงสู่แม่น้ำน่าน ผ่านคลอง DR 15.8 และ DR 2.8 รวมอัตราการระบาย 150-200 ลบ.ม./วินาที.-สำนักข่าวไทย
