ปฏิบัติการร่วม 9 ชาติ ทลายเครือข่ายออนไลน์มืด AlphaBay

อสมท 25 ก.ค. – ปฏิบัติการเบย์โอเน็ต (Operation Bayonet) เพื่อปราบปรามสินค้าออนไลน์ผิดกฎหมายข้ามชาติ เริ่มขึ้นจากการประสานความร่วมมือนำโดย FBI มี DEA ซึ่งเป็นหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดของสหรัฐ และอีก 8 ประเทศ คือ แคนาดา ฝรั่งเศส สเปน เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง ไซปรัส ลิทัวเนีย และประเทศไทยเข้าร่วมปฏิบัติการ 


เป้าหมาย คือเว็บไซต์ใต้ดิน “AlphaBay” ตลาดมืดออนไลน์ขนาดใหญ่ที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด อาวุธปืน และสินค้าผิดกฎหมายเกือบทุกประเภท ก่อตั้งเมื่อปี 2557 หรือ ค.ศ. 2014 รูปแบบคล้ายกับตลาด e-bay บนหน้าเว็บไซต์แห่งนี้มีการประกาศขาย จำแนกหมวดหมู่สินค้าเอาไว้ไม่ต่างจากเว็บขายของออนไลน์ทั่วไป ซื้อขายโดยใช้เงินดิจิทัล “บิทคอยน์” เท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดหลักฐานทางธุรกรรมการเงิน ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 200,000 ยูสเซอร์ มีกระแสธุรกรรมวันละ 600,000-800,000 ดอลลาร์สหรัฐ

แต่ที่แตกต่างคือ AlphaBay เป็นเว็บที่ซ่อนอยู่ในเครือข่ายเว็บมืด โดยลูกค้าจะใช้เว็บเบราเซอร์ TOR Project ปกติการท่องโลกอินเทอร์เน็ตทั่วไปจะใช้ IE, FireFox หรือไม่ก็ Chrome ในการเข้าถึงเว็บไซต์  แต่ TOR Project เป็นการท่องโลกออนไลน์แบบไม่เปิดเผยชื่อผู้ใช้ พร้อมกับเลี่ยงการถูกเซ็นเซอร์ เป็นช่องหว่างซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถตรวจสอบได้ ถูกออกแบบมาให้ปกปิดตัวตนและที่อยู่คอมพิวเตอร์ (IP) ของผู้ใช้ 


ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทำการแฝงตัวล่อซื้อสินค้าซึ่งเป็นวัตถุผิดกฎหมายบนเว็บไซต์ AlphaBay ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559 เป็นต้นมา อาทิ การซื้อเอกสารปลอมแปลง ไม่ว่าจะเป็นใบขับขี่ของสหรัฐ รวมไปถึงบัตรไอดีปลอม กัญชา เฮโรอีน ไปจนถึงเครื่องสกิมเมอร์ หรือข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อจารกรรมข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งเป็นไปตามคาด เจ้าหน้าที่ล่อซื้อก็ได้รับสินค้าตรงตามที่โฆษณาไว้ในเว็บไซต์ เป็นการยืนยันว่ามีการซื้อขายและกระทำกฎหมายชัดเจน ลูกค้าของ AlphaBay ส่วนใหญ่เป็นแก๊งอาชญากรรมจากทั่วโลก ทำเงินได้ต่อปีจำนวนมหาศาล

พฤติการณ์ในไทยของนายอเล็กซานเดอร์ และนางสุนิสา คือ ทั้งคู่มักเดินทางเพื่อไปรับ-ส่งพัสดุระหว่างประเทศต่อเนื่อง รวมทั้งการไปทำธุรกรรมการเงินบ่อยครั้ง หลายธนาคารตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า ทั้งคู่นอกจากจะทำโอนเงินจ่ายค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อไว้เงินแล้ว ยังโอนเงินไปยังบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในไซปรัส สืบทราบพบว่าเป็นค่าเช่าใช้เซิร์ฟเวอร์อินเทอร์เน็ต

ทั้งนี้ ภายหลังการจับกุมนายอเล็กซานเดอร์ แคซ (Alexandre CAZES) สัญชาติแคนาดา พร้อมภรรยา คือ นางสุนิสา เทพสุวรรณ์  ที่บ้านพักย่านพุทธมณฑลสาย 3 ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. ทั้งคู่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่กลุ่มงานสอบสวน บก.ปส.1 ระหว่างรอดำเนินการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐต่อไป ปรากฏว่าวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ช่วงเช้า 07.35 น. นายอเล็กซานเดอร์ได้ใช้ผ้าเช็ดตัวผูกคอทำให้เสียชีวิตที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา ตำรวจสามารถยึดทรัพย์ได้หลายรายการ ทั้งคฤหาสน์หรู บ้านตากอากาศริมทะเลมูลค่ารวมหลายร้อยล้านบาท ในกรุงเทพฯ และภูเก็ต รถยนต์หรู 4 คัน ทั้ง ลัมโบร์กินี มินิคูเปอร์ BMW และมินิคูเปอร์ เงินดิจิทัลบิทคอยน์ ที่เปิดบัญชีในไทยมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท และที่เปิดบัญชีในลิทัวเนียกว่า 57 ล้านบาท รวมทั้งบัญชีเงินสดอีกราว 46 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้จำนวนกว่า 726 ล้านบาท


ส่วนข้อมูลของผู้ต้องหานายอเล็กซานเดอร์ แคซ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามหมายจับของศาลอาญาที่ 502/2560 ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2560 อายุ 26 ปี เกิดวันที่ 19 ตุลาคม 1991 ที่เมืองออตโตวา ของแคนาดา จบการศึกษาไฮสคูล ด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ มีความชำนาญการเขียนโปรแกรมเข้ารหัสคอมพิวเตอร์ในระดับสูง

ข้อมูลจากทางการสหรัฐระบุว่า จากการตรวจสอบนายอเล็อกซานเดอร์ มีระดับไอคิวถึง 142 และระดับที่เรียกว่า Genius ต้องมีไอคิวที่ 140 ขึ้นไป ยังพบด้วยว่านายอเล็กซานเดอร์สามารถสร้างโปรแกรมป้องกันการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ได้ตั้งแต่อายุ 14 ปี เข้ามาในประเทศไทยและแต่งงานกับสาวไทยผ่านเว็บไซต์จัดหาคู่ ก่อนก่อตั้งเว็บไซต์ “AlphaBay” เมื่อปี  2557 ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการแอดมินนานกว่า 6 ปี มีความรู้ภาษาไทย พูด ฟัง อ่าน เขียนภาษาไทยได้ดี

ขณะที่ล่าสุดมีความเห็นจากนักวิชาการถึงตลาดมืดในอินเทอร์เน็ต เบื้องต้นมองว่าภาครัฐของไทยต้องยกระดับการป้องกันให้มากกว่าที่เป็นอยู่ แม้อาจมีเสียงคัดค้านจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในการยกระดับความปลอดภัยด้านไซเบอร์ แต่ความสำคัญของการป้องกันอาชญากรรมก็สำคัญไม่แพ้กัน. -สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]