จับพนักงานขนกระเป๋าสนามบินลักทรัพย์ผู้โดยสาร

สุวรรณภูมิ  24 ก.ค. – สนามบินสุวรรณภูมิ ร่วมกับ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์ผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โดยฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทสภ. และศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ทอท. ร่วมกับ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมพนักงานบริษัทขนกระเป๋าสัมภาระ ฐานความผิดลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน โดยนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทสภ. แถลงข่าวร่วมกับ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ และสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดย พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในคดีการจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์ผู้โดยสาร 

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ทอท. (ศปพ.ทอท.) ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทสภ. กรณีนายณัฐพนธ์ ธรรมราช พนักงานรักษาความปลอดภัย บริษัท ASM ประจำสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ สังเกตเห็นความผิดปกติของพนักงานโหลดกระเป๋าสัมภาระประจำเที่ยวบิน MH 783 จึงขอเข้าตรวจค้นตัวพนักงานคนดังกล่าว พบเงินสกุลต่างประเทศจำนวนหนึ่งซุกซ่อนบริเวณเป้ากางเกงชั้นใน คาดว่าได้มาจากการลักทรัพย์จากกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสาร จึงประสานแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และนำตัวพนักงานคนดังกล่าวมาสอบสวนเพิ่มที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


เวลาต่อมาทราบชื่อ คือ นายสิทธิชัย แซ่เตียว อายุ 24 ปี เป็นพนักงานสังกัดบริษัท บางกอกไฟลท์ เซอร์วิสเซส จำกัด (BFS) ทำหน้าที่โหลดกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารขึ้น-ลงอากาศยานภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีพฤติกรรม คือ เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ขณะที่นายสิทธิชัย ขนถ่ายสัมภาระผู้โดยสารขึ้นอากาศยาน สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH 783 ขาออก ปลายทางประเทศมาเลเซีย บริเวณหลุมจอด G-1 ร่วมกับนายปิยะพงษ์ จุ้ยสุวรรณ อายุ 28 ปี (ผู้ต้องหาที่ 2) ทำการลักทรัพย์สินของผู้โดยสาร จากกระเป๋าเป้แบบสะพาย ซึ่งเป็นของผู้โดยสารเที่ยวบินดังกล่าว

ทั้งนี้ นายปิยะพงษ์ ทำหน้าที่ดูต้นทางให้นายสิทธิชัย วิธีการ คือ นายสิทธิชัย นำกระเป๋าเป้ดังกล่าวมาวางที่หว่างขา แล้วนั่งบังกระเป๋าไว้ จากนั้นทำการล้วงภายในกระเป๋า พบว่ามีลักษณะคล้ายธนบัตร จึงหยิบออกมาแล้วยัดใส่เข้าไปในเป้ากางเกงชั้นในของตน จากนั้นบอกนายปิยะพงษ์ว่าได้ของมาแล้ว นายปิยะพงษ์จึงนำกระเป๋าโหลดขึ้นไปตามปกติ แต่เมื่อนายสิทธิชัยเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินมา จึงรีบเดินออกมาจากจุดดังกล่าว เพื่อเข้าห้องน้ำ ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงรีบมาสกัดไว้ แล้วขอค้นตัว พบของกลางเป็นธนบัตรต่างประเทศอยู่ที่ตัวของนายสิทธิชัย ตรวจสอบพบว่าเป็นธนบัตรสกุลหยวน ฉบับละ 100 หยวน จำนวน 100 ฉบับ เป็นเงิน 10,000 หยวน คิดเป็นเงินไทย 49,600 บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปสอบสวน และทำการขยายผลไปตรวจสอบภายในห้องพักไม่ทราบชื่อของนายปิยะพงษ์ ภายในซอยลาดกระบัง 54 พบของกลางที่ได้มาจากการกระทำผิดครั้งก่อน ประกอบด้วย 1. ธนบัตรต่างประเทศ สกุลมนัสเติร์ก 56 มนัสเติร์ก 2. นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ Daniel Wellington 1 เรือน 3. แว่นตากันแดด ยี่ห้อ Visun 1 อัน 4. แว่นตากันแดด ยี่ห้อ Aviation 1 อัน 

นายสิทธิชัย แซ่เตียว และนายปิยะพงษ์ จุ้ยสุวรรณ ให้การรับสารภาพว่า มีพฤติกรรมตามกล่าวข้างต้นจริง โดยนายปิยะพงษ์ ให้การว่า ทรัพย์สินทั้งหมดได้มาจากการกระทำความผิด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำใบบันทึกตรวจยึดของกลาง บัญชีของกลางลำดับที่ 180/60 และส่งมอบให้ ร.ต.อ.อภิชัย สุโพธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน” ตาม ปจว.ข้อที่ 1 เวลา 01.00 น. ลงวันที่ 22 ก.ค.60 คดีอาญาเลขที่ 266/60 ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย